เอาแล้วไง ! "บิ๊กตู่" ลั่นถึงชายไทยทั่วประเทศ จำเป็นไหมที่ยังต้อง "เกณฑ์ทหาร"

คอมเมนต์:

เอาแล้วไง ! "บิ๊กตู่" ลั่นถึงชายไทยทั่วประเทศ จำเป็นไหมที่ยังต้อง "เกณฑ์ทหาร"

    อีก 1 ประเด็นที่พี่น้องชาวไทยกำลังตั้งข้อสงสัยและรอบทสรุปมานานหลายปี นั่นก็คือการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ซึ่งก็มีข่าวลือปล่อยออกมาในหลายทิศทางหลากหลายรูปแบบ ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้คำตอบชัดเจนแล้ว

    โดยเว็บไซต์ workpointnews รายงานว่าวันที่ 18 ก.พ. ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตอบคำถามกรณีพรรคการเมืองบางพรรคเสนอนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม ว่า ทุกคนต้องเข้าใจว่าหน้าที่การป้องกันประเทศไม่ใช่หน้าที่ของทหารอย่างเดียว แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนในประเทศนี้

 

Sponsored Ad

 

     การเกณฑ์ทหารหรือการเป็นทหารเป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ คนไทยทุกคนต้องเป็นทหาร แต่ไม่ได้เป็นทั้งหมด ใช้หลักการพอเพียงในช่วงที่ไม่ใช่เวลาสงคราม เมื่อถึงยามสงครามถ้ามีการสู้รบกันจริงๆ หลายคนบอกว่า ไม่มี แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่า ไม่มี จะเริ่มมาจากความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ เสร็จแล้วก็มีการใช้อาวุธต่อกัน

 

Sponsored Ad

 

    พล.อ.ประยุทธ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ในส่วนของพลทหาร เรื่องการจัดตั้งหน่วยทหาร ทุกคนต้องเข้าใจว่ามีการประกอบกำลังไปด้วยมีทั้งนายทหาร นายสิบ และพลทหาร เช่น หมู่ปืนเล็ก 1 หมู่ มีผู้บังคับหมู่ 1 คน มีรองผู้บังคับหมู่ 1 คน ที่เหลือก็เป็นพลทหาร หัวหน้าชุดยิง ก. หัวหน้าชุดยิง ข. ต้องประกอบกำลังอย่างนี้ไม่เช่นนั้นรบไม่ได้ในยามสงครามเป็นอย่างนี้ทุกประเทศ ส่วนใหญ่เอาแนวทางมาจากตะวันตกทั้งสิ้น และวันนี้ก็มีการปรับแก้ไป 1 หมู่มี 11 คน จากหมู่ประกอบเป็นหมวด ผสมกันเป็นกองร้อย จากกองร้อยเป็นกองพัน และเป็นกรมตามลำดับ

 

Sponsored Ad

 

    “ทุกอย่างต้องเตรียมความพร้อมไว้ ไม่ใช่วันหน้าถึงเวลาค่อยไปเกณฑ์เขามาแล้วเขาจะใช้อาวุธได้ไหมล่ะ เราเอาคนที่ไม่เคยจับถืออาวุธมาเลยมาฝึกระเบียบวินัย ซ้ายหันขวาหัน ใช้เวลาฝึก 3 เดือนแล้ว…แล้วประเด็นสำคัญวันนี้เราไม่ได้มองในแง่สงครามอย่างเดียว ถ้าไม่เกิดก็ดีอยู่แล้วล่ะ แต่ผลกระทบที่เกิดตามแนวชายแดนมีได้ตลอด ถ้าเราไม่เข้มแข็งเพียงพอ ไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหมาะสม ไม่มีเทคโนโลยีเข้าไปเสริม คนอย่างเดียวก็ลำบากในการแก้ปัญหาเหล่านั้น ขอให้เข้าใจด้วยแล้วกัน เป็นหน้าที่ของชายไทยทุกคนต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ตามหลักการคือทุกคนต้องเป็น แต่เมื่อกำหนดกรอบไว้ว่าต้องการเท่าไหร่ก็เอาเท่าที่ความจำเป็นไปก่อน เมื่อมีสงครามเกิดขึ้นจริงๆ ก็ต้องเกณฑ์เพิ่ม ถ้ามันยืดยาวหรือกรณีพิพาทมันยาว

 

Sponsored Ad

 

    วันนี้เราต้องคำนึงถึงความพร้อมไปด้วย เราทำงานกอ.รมน.ภายในเสริมงานของหน่วยงานที่ไม่มีกำลังคน ที่มีแต่กฎหมาย งบประมาณ แผนงานแต่ไม่มีคนทำงานก็เอาทหารไปช่วยสนับสนุน ไม่ใช่เตรียมการไว้อย่างโน่นอย่างนี้ต่อต้านการเมือง มันไม่ใช่หรอก หน้าที่ของทหารของกระทรวงกลาโหมต้องปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้ารัฐบาลอยู่แล้ว ในการสั่งการให้มันถูกต้องให้รู้กติกาเหล่านี้ ถ้าพูดไม่รู้เรื่องกันก็ไปกันไม่ได้ เราต้องรู้ว่าอะไรทำได้ทำไม่ได้ การจะไปลดงบประมาณกระทรวงกลาโหมก็ต้องไปดูว่าแต่ละกระทรวง ทบวง กรม มีงบประมาณคนละเท่าไหร่ แล้วทำไมถึงเพิ่ม ที่เพิ่มเพราะต้องไปจัดซื้ออะไรใหม่ๆ ขึ้นมาเพราะของเก่ามันชำรุด เพราใช้มานานแล้ว 20-30 ปี ถ้าไม่มีศักยภาพสงครามก็เทียบเคียงไม่ได้ มีปัญหาการฝึกร่วม การลาดตระเวนชายฝั่งชายทะเล ถ้ามีปัญหาในภูมิภาคเอเชียจะเอาอะไรไปฝึกร่วมไปปฏิบัติการกับเขาก็ไปไม่ได้หมด

 

Sponsored Ad

 

     คิดตรงนี้สิครับ ในส่วนของกระทรวงก็มีการเพิ่มงบประมาณทุกปีๆ ตามสัดส่วนมีหลักการอยู่ ขอให้เข้าใจด้วย ไม่ใช่ลดตรงโน่นตรงนี้ไปให้ตรงนี้ต้องพิจารณากัน เพราะพิจารณาในรูปแบบของคณะกรรมการ การจะหาเสียงถ้าเอาแต่สนุกปาก พูดอะไรก็ได้ ไม่ต้องนึกถึงประเทศชาติและความเป็นจริง วันหน้าท่านก็รับผิดชอบนะ ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมาล่ะก็ ต้องรับผิดชอบทั้งหมดในเรื่องของการช่วยเหลือ บรรเทาภัยพิบัติ น้ำท่วม ก็จะเห็นว่าทหารทั้งนั้นที่ออกไปทำงานได้ ยุทโธปกรณ์ทางทหาร 50 เปอร์เซ็นต์ใช้ในการดูแลประชาชนทั้งสิ้น ถ้าไปตัดงบเขาทั้งหมดแล้วถ้าสิ่งเหล่านี้มันหาย มันพังไปจะทำอย่างไรก็มีอายุการใช้งานทั้งสิ้น”

    ก็ถือว่าเป็นการชี้แจงที่ชัดเจนเกี่ยวกับระบบการเกณฑ์ทหารและการจัดสรรค์งประมาณต่างๆ อย่างชัดเจน ส่วนในอนาคตจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือมีระบบอะไรที่เปลี่ยนไป เราทุกคนก็ควรที่จะติดตามข่าวสารกันอย่างใกล้ชิด

ข้อมูลและภาพจาก workpointnews

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ