เปิด "สูตรอาหารทำขายช่วงสงกรานต์" ลงทุนน้อยกำไรเพียบ โอกาสทองมาแล้วรีบคว้าไว้

คอมเมนต์:

ใครไม่มีแพลนไปเที่ยวไหน อยากหาเงินเข้ากระเป๋า ลองดูได้นะคะ

        ใกล้เข้าวันสงกรานต์แล้วจ้า มนุษย์เงินเดือนอย่างเรามีวันหยุดยาว ใครไม่ได้ไปสาดน้ำที่ไหนมาหารายได้เสริมกันดีกว่า 

        เราขอเสนอไอเดียสำหรับคนอยากขายของช่วงสงกรานต์ด้วยเมนูอาหารไทย ใครอยากโกยเงินเตรียมตัวให้พร้อม ถ้าพลาดคราวนี้รอยาว ๆ ปีหน้าโน่น

 

Sponsored Ad

 

1. ข้าวผัดกะเพรา

        เมนูผัดกะเพรานอกจากเป็นอาหารตามสั่ง หรืออาหารจานเดียวสุดฮอตในวันทั่วไปแล้วยังเป็นอาหารยอดนิยมทำขายวันสงกรานต์อีกด้วย วันนี้ขอยกตัวอย่างเมนูผัดกะเพราหมูย่างสูตรจากคุณ jin leng สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาไว้เป็นแนวทาง ซึ่งหมูย่างสูตรนี้ใช้แบบสำเร็จรูปเลย หรือใครจะซื้อหมูมาหมักแล้วย่างเองก็ได้ค่ะ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเหมือนผัดกะเพราทั่วไป เพียงแต่เพิ่มพริกหอมเพื่อให้กะเพราเรามีความต่างจากเจ้าอื่น ทั้งนี้จะดัดแปลงใส่เนื้อสัตว์อื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน 

 

Sponsored Ad

 

ส่วนผสม

        - พริกขี้หนู (ปริมาณตามชอบ)

        - พริกหอม (ปริมาณตามชอบ)

        - กระเทียม

        - น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

        - หมูย่าง (ซื้อจากร้านส้มตำ)

        - ถั่วฝักยาวหั่นเฉียง

        - น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

        - น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ถึง 1 ช้อนชาครึ่ง

        - ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา (หรือน้ำปลา)

        - ใบกะเพราแดง (เด็ดเป็นใบ)

        - ข้าวสวย

        - ไข่ดาว

วิธีทำ

        1. โขลกพริกขี้หนู พริกหอม และกระเทียมเข้าด้วยกัน

        2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงผัดจนหอม ใส่หมูย่างและถั่วฝักยาวลงไปผัด 

        3. ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำตาลทราย และซอสปรุงรส เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย สุดท้ายใส่ใบกะเพราแดงลงไปผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยและไข่ดาว

 

Sponsored Ad

 

2. ข้าวไข่เจียว

        เมนูข้าวไข่เจียวเป็นอาหารอีกอย่างที่ฮอตสุด ๆ ในช่วงวันสงกรานต์ สำหรับวันนี้เราจะขอยกตัวอย่างเมนูข้าวไข่เจียวลาบไก่สับดู เปลี่ยนจากข้าวไข่เจียวเดิม ๆ ดูบ้าง เป็นสูตรจากคุณ Megamovie สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ผสมผงลาบกับไก่ใส่ลงไปตีผสมกับไข่ไก่ พอทอดไข่เสร็จก็โปะข้าวได้เลยค่ะ เสิร์ฟกับซอสพริกก็อร่อยเหาะค่ะ รับรองขายดีแน่นอน

ส่วนผสม

 

Sponsored Ad

 

        - ผงปรุงลาบ-น้ำตก 1/2 ซอง

        - เนื้ออกไก่สับ

        - ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

        - ไข่ไก่ 3 ฟอง

        - น้ำมันพืช

        - ผักชี (สำหรับโรยหน้า)

วิธีทำ

        1. ผสมผงลาบกับเนื้ออกไก่สับหมักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที (ถ้าชอบรสจัดใส่ผงลาบเยอะ ๆ ได้ครับ ไม่เผ็ดมาก)

        2. เหยาะซอสปรุงรสลงในถ้วยไข่ไก่แล้วตีไข่ไก่ให้เป็นเนื้อเดียวกันและขึ้นฟองฟู

        3. เทเนื้อไก่สับปรุงรสลงไปผสมในชามไข่ไก่แล้วคนให้เข้ากัน

        4. ตั้งกระทะไฟฟ้าใช้ไฟแรงใส่น้ำมันพืชกะพอท่วมไข่ พอน้ำมันร้อนแล้วเทส่วนผสมไข่ลงในกระทะได้เลย ใช้ตะหลิวโกยน้ำมันมาตรงกลางไข่เจียวเพื่อให้สุกทั่ว ๆ ก่อนพลิกด้านไข่ ตักโปะข้าว โรยหน้าด้วยผักชี พร้อมเสิร์ฟ

 

Sponsored Ad

 

3. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

        ข้าวเหนียวหมูปิ้งหมูย่างก็กินได้ทุกวัน แม้แต่วันสงกรานต์คนเล่นน้ำก็ยังซื้อกินเลยค่ะคุณขา ใครสนใจอยากทำขายเราขอแนะนำสูตรจากคุณเนรัญชลา จากเพจเฟซบุ๊ก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา มาพร้อมสูตรหมักหมู วิธีการปิ้งหมู และสูตรน้ำจิ้มแจ่ว เตรียมข้าวเหนียวรอไว้เลยค่ะ ขายดีแน่นอน

ส่วนผสม

 

Sponsored Ad

 

        - เนื้อหมู (ส่วนสะโพกหรือสันนอก) 1 กก.

        - รากผักชี 25 กรัม

        - กระเทียมไทย (แกะเปลือก) 2 หัว

        - พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา + 1/2 ช้อนชา

        - น้ำตาลมะพร้าว 180 กรัม

        - หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง + 1/2 ถ้วยตวง

        - ซีอิ๊วดำ 3 ช้อนชา

        - ซีอิ๊วขาว 8 ช้อนโต๊ะ

        - ซอสปรุงรสฝาเขียว 6 ช้อนโต๊ะ

        - แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ

        - ไข่แดง 1 ฟอง

        - น้ำมันพืช 5 ช้อนโต๊ะ

        - ไม้สำหรับเสียบหมู

วิธีทำ

        1. แล่เนื้อหมูให้เป็นแผ่นหนาประมาณ 1/2 ซม. กว้างประมาณ 4-5 ซม. ส่วนความยาวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของไม้เสียบ (หรือหั่นตามความถนัด)

Sponsored Ad

        2. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ดจนละเอียดเข้าด้วยกัน

        3. ผสมเครื่องที่โขลกไว้กับน้ำตาลมะพร้าว กะทิ 1 ถ้วยตวง (ส่วนกะทิที่เหลืออีก 1/2 ถ้วยเก็บไว้ใช้ทาตอนย่าง) ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส แป้งข้าวโพด และไข่แดง คนผสมจนน้ำตาลมะพร้าวละลายดี จึงนำเนื้อหมูที่หั่นไว้ลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน สุดท้ายใส่น้ำมันพืชลงไปเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน หรืออย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป

        4. หลังจากหมักหมูทิ้งไว้ครบเวลาแล้ว นำเนื้อหมูออกจากตู้เย็นมาเสียบด้วยไม้ 

        5. นำน้ำที่เหลือจากหมักหมูไปผสมกับกะทิที่เหลือให้เข้ากัน เตรียมไว้

        6. เปิดเตาสำหรับปิ้งหมูให้ร้อน ใช้ไฟอ่อน ๆ จากนั้นนำหมูขึ้นปิ้งบนเตา (หมั่นคอยดู) พอด้านที่สัมผัสความร้อนเริ่มเหลืองแล้วให้พลิกเอาอีกด้านลง แล้วใช้แปรงจุ่มส่วนผสมกะทิที่ผสมไว้ทาให้ทั่วด้านบน พอหมูอีกด้านเริ่มเหลืองก็พลิกกลับมาทาซอสอีกครั้ง ปิ้งจนหมูสุกทั้งสองด้าน (แต่ไม่ควรปิ้งให้แห้ง เพราะน้ำในเนื้อหมูจะระเหยไปกับความร้อน ทำให้หมูเหนียวและแข็งค่ะ)

4. ข้าวเหนียวหมูแดดเดียว

        สำหรับใครที่อยากขายข้าวเหนียวหมูแต่ไม่มีเตาปิ้งไม่ต้องไปซื้อนะคะ ขอแนะนำเมนูข้าวเหนียวหมูแดดเดียวทอดสูตรจากคุณ EcoGo สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก่อนอื่นจับเนื้อหมูไปหมักและตากแดดให้แห้งก่อนค่ะ ถ้าแดดไม่มีก็เอาไปอบแทนได้ค่ะ ทอดเสร็จเนื้อหมูจะฉ่ำหน่อยค่ะ กินกับข้าวเหนียวฟินแน่นอน

ส่วนผสม

        - คอหมู 500 กรัม (คอหมูไม่ใช่สันคอหมูนะครับ คอหมูที่เขาใช้ทำคอหมูย่าง บางที่ใช้สันคอ แต่สูตรนี้เน้นนุ่ม ๆ หนึบ ๆ ถ้าไม่ชอบมัน ๆ ให้แล่เอาส่วนมัน ๆ ออกมา เนื้อส่วนนี้จะเห็นมันแทรกในชั้นเนื้อ ทำให้นุ่มและไขมันนำพารสเครื่องปรุงแทรกเข้าชัดเจนมาก)   

        - สับปะรดคั้นน้ำให้ได้ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ

        - น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

        - ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ

        - น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ

        - ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

        - พริกไทย 1/2 ช้อนชา

        - น้ำมันพืชสำหรับทอด (ทอดแบบ Deep Fried น้ำมันท่วม ๆ นะครับ อย่าขี้เหนียว)

วิธีทำ

        1. หั่นคอหมูเป็นเส้นยาวประมาณ 1 เซนติเมตร (เคล็ดลับ : อย่าหั่นหมูบางมาก เพราะถ้าบางเวลาทอดจะแห้งแข็ง และควรหั่นตัดขวางลายเส้นเนื้อหมู อย่าหั่นตามลายเส้นเนื้อ เพราะถ้าหั่นตามเส้นหมูจะเหนียวมาก)

        2. นำคอหมูหมักกับน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา ซอสปรุงรส พริกไทย และน้ำสับปะรด) แล้วขยำให้เข้ากัน

        3. วางหมูที่หมักแล้วลงบนถาด โดยกระจายอย่าให้เนื้อหมูซ้อนกัน รักษาระยะห่างกันไว้สักนิดจะได้แห้งเหี่ยวกันไว ๆ

        4. นำไปตากแดดโดยเลือกพื้นที่ที่มีแดดส่องทั้งวันจนแห้ง (ถ้าแดดดี ประมาณ 4-5 ชั่วโมงกำลังได้ที่ / ถ้าแดดอ่อน แขวนลืมไว้ได้เลย เย็น ๆ เก็บทีเดียว / ถ้าแดดอ่อนจัดมาก ตอนเย็นเนื้อหมูยังชุ่ม ๆ อยู่ให้เอาไดร์ร้อนเป่าผมช่วย / ถ้าเริ่มแขวนกลางคืน แนะนำให้นำไปตากตอนเช้าของอีกวัน)

        5. ถ้าไม่อยากตากแดดให้เอาชิ้นหมูเรียงบนถาดให้เรียบร้อย อย่าทับกัน อย่าซ้อนกัน เปิดอบใช้ไฟบนกับลมร้อนที่อุณหภูมิ 70-120 องศาเซลเซียส เปิดวอร์มเตาได้ที่แล้วให้นำเข้าเตาอบ ดูให้น้ำในเนื้อหมูระเหยจนชิ้นเนื้อเริ่มแห้ง 

        6. ตั้งกระทะ กะน้ำมันให้ท่วมชิ้นหมู นำไปตั้งไฟกลางค่อนไปทางอ่อน รอจนน้ำมันร้อน จากนั้นใส่หมูลงทอดให้พอเหลืองจนผิวเริ่มแห้ง แล้วช้อนขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันไว้ ให้ความร้อนทำงานต่ออีกสัก 2-3 นาที สีจะเข้มขึ้นเล็กน้อย ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ

5. หมูสามชั้นทอดกระเทียมพริกไทย

        ข้าวเหนียวหมูปิ้ง หรือข้าวเหนียวหมูแดดเดียวทำขายวันสงกรานต์ก็ขายดีนะคะ แต่ถ้าต้องการเพิ่มตัวเลือกให้หลากหลายมากขึ้น ขอแนะนำเมนูข้าวเหนียวหมูสามชั้นทอดกระเทียมพริกไทยสูตรนี้เลยค่ะ จากคุณ Moo Nuy & The Bird จับหมูสามชั้นหมักกับเครื่องปรุงสูตรพิเศษ ตบท้ายด้วยการชุบแป้งทอดกรอบ แค่กลิ่นตอนทอดก็เรียกลูกค้าได้แล้วค่ะ อย่าลืมน้ำจิ้มแจ่วนะคะ ทีเด็ดเพิ่มรสชาติเลยค่ะ 

ส่วนผสม

        - หมูสามชั้น

        - กระเทียม

        - พริกไทย

        - น้ำตาลทราย

        - ซีอิ๊วขาว

        - น้ำมันหอย

        - แป้งทอดกรอบ

        - น้ำมันพืช

        - งาขาว

วิธีทำ

        1. ล้างหมูสามชั้นด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำเกลือให้สะอาด เสร็จแล้วนำไปซับน้ำให้แห้ง เตรียมไว้

        2. โขลกกระเทียมกับพริกไทยเข้าด้วยกัน ใส่ลงไปในอ่างผสมที่มีเนื้อหมูสามชั้น ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และน้ำมันหอย

        3. คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วหมักเนื้อหมูทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที

        4. ใส่แป้งทอดกรอบลงไปในเนื้อหมูที่เราหมักเอาไว้ เคล้าให้แป้งกับหมูเข้ากัน (ใครอยากจะละลายแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็นต่างหากก็ได้นะคะ แล้วค่อยเอาหมูลงไปชุบแป้งแล้วทอด แต่เราแอบขี้เกียจเลยใช้แป้งคลุกกับเนื้อหมูเลย)

        5. นำกระทะขึ้นตั้งไฟใส่น้ำมันพืชลงไปใช้ไฟปานกลาง ก่อนนำเนื้อหมูลงทอดให้โรยงาขาวลงบนชิ้นเนื้อหมูที่จะนำลงทอดทั้งสองด้านก่อน (ที่ไม่ใส่งาขาวลงไปคลุกกับเนื้อหมูโดยตรงนั้น เพราะอยากให้งาขาวติดกับเนื้อหมูเยอะ ๆ ค่ะ) จากนั้นนำเนื้อหมูลงทอดให้เหลืองกรอบทั้งสองด้าน

        6. นำเนื้อหมูที่ทอดสุกแล้วมาวางบนกระดาษซับน้ำมัน พร้อมเสิร์ฟ

6. ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำปลา

        มาต่อกันที่เมนูวันสงกรานต์ขายดีอีกหนึ่งอย่างนั่นคือ เมนูข้าวเหนียวหมูทอดน้ำปลาสูตรจากเฟซบุ๊ก หมอดูพาแด๊ก สูตรนี้ใช้หมูสามชั้นหมักกับน้ำปลาและเครื่องปรุงรสอื่น ๆ พอทอดเสร็จสีจะค่อนข้างเข้มหน่อย กินกับข้าวเหนียวอร่อยเว่อร์เลยค่ะคุณขา 

ส่วนผสม

        - หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม

        - น้ำปลาอย่างดี 7-8 ช้อนโต๊ะ 

        - พริกไทยขาวป่นตามชอบ

        - ไข่ไก่ 1 ฟอง

        - ผงปรุงรสเล็กน้อย

        - แป้งทอดกรอบ (ตราโกกิ) 10-15 ช้อนโต๊ะ 

        - น้ำเย็น 

        - น้ำมันปาล์ม (สำหรับทอด)

        - น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ

        - เกลือเล็กน้อย

วิธีทำ

        1. ใช้มีดแกะสลักจิ้มให้ทั่วชิ้นหมู (เคล็ดลับ : สำคัญมากคือ ไปซื้อมีดแกะสลักมาจิ้ม ๆ ให้ทั่วหมูเลยครับ จิ้มหนังด้วย หมูจะนิ่ม น้ำหมักจะเข้าเนื้อหมู สุกเร็วครับ)

        2. หมักหมูโดยใส่น้ำปลา พริกไทยป่น ไข่ไก่ ผงปรุงรสเล็กน้อย และแป้งประกอบอาหารโกกิ จากนั้นพรมน้ำเย็นบาง ๆ ลงไป แล้วค่อย ๆ นวดจนเข้ากันประมาณ 5 นาที จากนั้นหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที

        3. ใส่น้ำมันปาล์มลงในกระทะให้ท่วม ใส่น้ำส้มสายชูลงในน้ำมัน (เพื่อหมูจะไม่อมน้ำมัน) และเกลือเล็กน้อย (กันหมูติดกระทะ) ใช้ไฟค่อนข้างแรง จากนั้นนำหมูลงทอด โดยทอดทีละข้างให้เกรียมจนเนื้อหมูเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล (ตามรูป) จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นชิ้น ๆ พร้อมเสิร์ฟ

7. ข้าวเหนียวเนื้อทอด

        หรืออยากจะทำเมนูทอดน้ำปลาเผื่อคนที่ไม่กินหมูก็ขอแนะนำเมนูข้าวเหนียวเนื้อทอดสูตรจากคุณ swin สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรเนื้อทอดกรอบ ๆ มีรสชาติเค็มนิด ๆ หอมพริกไทยเล็กน้อย ทำขายวันสงกรานต์ก็เริด หรือทำกินเองก็เลอค่าจ้า

ส่วนผสม

        - เนื้อวัว 500 กรัม

        - น้ำปลาอย่างดี 3 ช้อนโต๊ะ

        - พริกไทย

        - น้ำมันพืช (สำหรับทอด)

วิธีทำ

        1. หั่นเนื้อวัวเป็นชิ้นยาว ๆ (สูตรนี้ใช้เนื้อวัวที่หั่นไว้แล้วสำหรับนำไปทำหมูแดดเดียว) 

        2. หมักเนื้อวัวกับน้ำปลาและพริกไทย เคล้าผสมให้เข้ากัน (ระวังอย่าใส่น้ำปลาเยอะไม่อย่างนั้นรสชาติจะออกมาเค็มมาก แนะนำให้ลองชิมน้ำปลาก่อน เพราะน้ำปลาแต่ละยี่ห้อความเค็มแตกต่างกัน)

        3. หมักเนื้อทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง (เนื้อเริ่มจะแห้งเพราะในตู้เย็นมีความชื้นต่ำ ถ้าเอาไปตากแดดก็จะได้เป็นเนื้อแดดเดียว)

        4. ใส่น้ำมันลงในกระทะให้เยอะพอสมควร นำขึ้นตั้งไฟแรง พอน้ำมันร้อนใส่เนื้อที่หมักไว้ลงไปทอดทีละครึ่งหนึ่ง ทอดประมาณ 9 นาที ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน ใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

8. ลูกชิ้นปิ้งกับน้ำจิ้มรสเด็ด

        ใครอยากขายลูกชิ้นปิ้งไปเลือกซื้อลูกชิ้นจากร้านเจ้าโปรดมาเลยค่ะ หรือจะทำลูกชิ้นเองก็ได้ แต่ทีเด็ดที่ขาดไม่ได้คือ น้ำจิ้มรสเด็ด ขอแนะนำสูตรจากคุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กระซิบว่า แจกสูตรน้ำจิ้มลูกชิ้นถึง 2 สูตร เลือกทำขายวันสงกรานต์ได้ตามชอบ ดัดแปลงรสชาติได้ตามสบายจ้า 

ส่วนผสม สูตรที่ 2

        - พริกแห้งเม็ดใหญ่

        - รากผักชี

        - กระเทียม

        - พริกโขลกละเอียด (หากเป็นพริกกะเหรี่ยงได้ยิ่งดี เน้นให้เผ็ดด้วยนะ ความเผ็ดจะอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่ที่พริกแห้ง)

        - มะเขือเทศลูกใหญ่ 6-7 ลูก (มะเขือเทศจะให้ความเข้มข้นของตัวน้ำจิ้มและให้รสนัวอร่อยด้วย)

        - น้ำตาลปี๊บ

        - น้ำตาลทราย

        - น้ำส้มสายชู 4 ทัพพี (ใส่เพิ่มทีหลังได้)

        - เกลือป่น

        - มะขามเปียก (แบบเอาเม็ดออก) 2 ปั้น

วิธีทำ

        1. กรีดพริกแห้งแล้วนำเม็ดออก เอาเฉพาะเนื้อ จากนั้นนำไปแช่น้ำจนนิ่ม นำไปปั่นให้ละเอียด (ส่วนนี้จะไม่เผ็ด เพราะเราเอาเม็ดพริกออกแล้ว)

        2. โขลกรากผักชีกับกระเทียมเข้าด้วยกันให้ละเอียด

        3. นำมะเขือเทศไปปั่นให้ละเอียด (บางสูตรจะใส่สับปะรดด้วย)

        4. ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย พริกแห้งปั่น รากผักชีกับกระเทียมโขลก และมะเขือเทศปั่นลงในหม้อ (ควรเลือกใช้หม้ออย่างดี เวลาเคี่ยวจะได้ไม่ไหม้) นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยว 

        5. ใส่น้ำส้มสายชูลงไป ตามด้วยเกลือป่น (ปริมาณตามภาพ สามารถเพิ่มทีหลังได้) มะขามเปียก (แบบเอาเมล็ดออกแล้ว หรือจะนำไปเคี่ยวเอาน้ำมันก่อนก็ได้ตามใจ) เคี่ยวจนส่วนผสมเหนียว (ก็จะได้น้ำจิ้มรสแซ่บเว่อร์ ! สีแดงแปร๊ดดด หากคิดเก็บไว้นาน ๆ ก็ไม่ต้องโรยผักชีซอยลงไปนะ แต่ถ้าโรยลงไปมันจะอร่อยหอมขึ้นอีก)

ส่วนผสม สูตรที่ 2

        - พริกแดงสด

        - รากผักชี

        - กระเทียมดอง 6-7 หัว

        - น้ำส้มสายชู

        - น้ำ

        - น้ำตาลปี๊บ

        - น้ำตาลทราย

        - เกลือป่น

        - ซอสพริก 6-7 ทัพพี

        - ซอสมะเขือเทศ 6-7 ทัพพี

        - น้ำมะขามเปียก

วิธีทำ

        1. ใส่พริกแดงสด รากผักชี กระเทียมดอง และน้ำส้มสายชูลงในเครื่องปั่น ปั่นจนละเอียด

        2. ใส่น้ำลงในหม้อ (ไม่ต้องมาก) ตามด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำตาลทรายลงไป (กะปริมาณเอา) นำขึ้นตั้งไฟ 

        3. ใส่ส่วนผสมพริกที่ปั่นไว้ เกลือป่น ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ และน้ำมะขามเปียกลงไป เคี่ยวจนส่วนผสมเหนียว (ปรุงให้ได้ 3 รส เน้นเผ็ดนำ) จากนั้นพักไว้จนเย็น สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานหลายวัน

        วันสงกรานต์ใครว่างอยากหารายได้พิเศษ ลองเข้ามาดูอาหารไทย 8 สูตรได้เลยค่ะ แม้จะเหนื่อยกับการเตรียมของมากถึงมากที่สุด แต่ถ้าหากลองคาดคะเนกำไรดูแล้วคุ้มนะคะ มารับทรัพย์กันเร็วพวก

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก kapook

บทความที่คุณอาจสนใจ