เหตุการณ์จากต่างประเทศ เมื่อสาวรายหนึ่งสังเกตเห็นถึงความแปลกประหลาดของน้องหมาสายพันธุ์ "เจแปนนีส สปิตซ์" ที่เธอรับเลี้ยงมาได้ประมาณ 1 ปีกว่า ๆ เนื่องจากมันไม่เคยเห่าเลย ก่อนจะมารู้ทีหลังว่าจริง ๆ แล้วน้องหมาที่เธอคิดว่าเป็น สายพันธุ์ "เจแปนนีส สปิตซ์" กลับกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกสีขาวไปซะงั้น

    Wang เผยว่า เธอได้ซื้อลูกสุนัขตัวนี้จากร้านขายสัตว์เลี้ยงในประเทศจีน โดยเข้าใจว่ามันเป็นสุนัขสายพันธุ์เจแปนนีส สปิตซ์ มาโดยตลอด 

    เธอดูแลมอบความรักให้มันเป็นอย่างดีตลอด 1 ปี ที่รับมันมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่ทว่ายิ่งวันเวลาผ่านไป เธอก็ยิ่งสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเจ้าขนฟูน้อยตัวนี้ 

    เมื่อมันเติบโตขึ้นจนอายุครบ 3 เดือน มันก็ไม่กินอาหารสุนัขอีกต่อไป ขนของมันก็ดูหนาขึ้นเยอะมาก และหน้าของมันก็ยื่นออกมา ดูแหลมขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก แถมหางของมันก็ดูยาวกว่าสุนัขทั่วไปและที่น่าผิดสังเกตที่สุดคือมันไม่เคยเห่าเลย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่แปลกมาก ๆ แต่เธอก็ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะไม่ใช่สุนัขธรรมดาทั่วไป

    ต่อมาเธอก็ได้ค้นพบความจริง หลังจากที่พาเจ้าขนฟูออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ จากนั้นก็มีคนเดินเข้ามาบอกกับเธอว่า เจ้าหมาเจแปนนีส สปิตซ์ ของเธอจ ไม่ใช่สุนัขธรรมดา แต่มันคือ "สุนัขจิ้งจอกสายพันธุ์พื้นเมือง"

    ซึ่งเธอเองก็เพิ่งมาสังเกตเห็นว่า สุนัขตัวอื่น ๆ ที่มาเดินเล่นในสวนสาธารณะ ไม่มีตัวไหนกล้าเข้าใกล้เจ้าขนฟูของเธอเลย 

    ต่อมาเธอจึงติดต่อไปยังสวนสัตว์ Taiyuan  เพื่อหาคำตอบว่า เจ้าขนฟูของเธอนั้นเป็น "สุนัขจิ้งจอกสายพันธุ์พื้นเมือง" ตามที่คนในสวนสาธารณะพูดหรือไม่? ซึ่งก็ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ บอกว่ามันคือ "สุนัขจิ้งจอกสายพันธุ์พื้นเมือง" จริง ๆ  

    เมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็แทบใจสลาย เพราะเลี้ยงดูมันมาอย่างดี รักเหมือนลูก ไม่อยากให้มันต้องจากอ้อมอกไปไหน แต่อย่างไรก็ตามเธอจำต้องยกมันให้กับสวนสัตว์ เพื่อให้มันได้รับการดูแลที่ถูกต้อง มีชีวิตที่ดีกว่านี้  และเธอก็เชื่อว่ามันคงไม่มีวันมีความสุขในฐานะสัตว์เลี้ยง

และนี่ก็คือภาพของสุนัขพันธุ์ เจแปนนีส สปิตซ์

ที่มา : Justsomething