เปิดอีกมุม พ่อค้าไอศกรีมถูกตำรวจล็อกล้อ วันนี้ยังขายไม่ได้ ลูกเมียรอกินข้าว เพราะ "รถแท็กซี่"

คอมเมนต์:

พ่อค้าไอติมถูกล็อกล้อ โอด "วันนี้ผมยังขายไม่ได้เลย" ล่าสุดทางรองโฆษก ตร. แจงแล้ว เพราะแท็กซี่

    สถานการณ์ปัจจุบันสร้างผลกระทบไปทุกภาคส่วน สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ลงรูปเหตุการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ล็อกล้อรถขายไอศกรีม ที่บริเวณหน้าตลาดประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

    โดยเจ้าของโพสต์ยังได้ระบุไว้ว่า น่าเห็นใจ พ่อค้าไอติม ที่ถูกล็อกล้อรถ ยืนหน้าเศร้าถกเถียงกับคุณ "ตำหนวด" พร้อมอ้อนวอนขอความกรุณาอย่าจับเลย เพราะวันนี้ยังขายไม่ได้ เงินก็ไม่มี หนี้สินก็บานเบอะ แถมเศรษฐกิจก็ผุพัง

 

Sponsored Ad

 

    ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกระบุว่า ทางรถไผ่ทองไอสกรีม มาจอดไม่ถึง 2 นาทีเท่านั้นเพื่อหาลูกค้า แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรล็อกล้อ ทางพ่อค้ายังได้พูดกับเจ้าหน้าที่ว่า ลูก-เมีย ผมรอกินข้าว กำไรวันละไม่ถึง 1 พัน เสียค่าปรับไป ผมหมดตัวแน่

 

Sponsored Ad

 

    เรื่องราวดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเห็นใจพ่อค้ารายดังกล่าว รวมไปถึงผู้ประกอบการทุกคนที่กำลังเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ด้วย

    หลายคนยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงไม่ตักเตือนก่อน แต่กลับตรงเข้ามาล็อกล้อ หากเป็นเหตุการณ์ดังนี้จริง ก็น่าเห็นใจผู้เป็นพ่อค้ามากๆ

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากนี้ ยังมีหลายคนที่มีน้ำใจ อยากจะช่วยเหลือค่าปรับพ่อค้าไอศกรีมคนดังกล่าว เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระไปได้บ้าง จะได้ยังพอมีเงินเหลือเอาไปซื้อข้าวให้ลูกและภรรยาที่กำลังรออยู่ที่บ้าน

 

Sponsored Ad

 

    ความคืบหน้าล่าสุด รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ เปิดเผยว่า ทางผู้บังคับบัญชาได้มีการตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรดังกล่าวได้มีบังคับล้อรถแท็กซี่สาธารณะที่จอดอยู่บริเวณด้านหน้ารถขายไอศกรีมคันดังกล่าว

    จากนั้นทางรถแท็กซี่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทำไมไม่ดำเนินการกับรถขายไอศกรีมที่อยู่ทางด้านหลัง จึงได้มีการบังคับล้อรถทั้ง 2 คัน

    โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับรถแท็กซี่ 200 บาท และรถขายไอศกรีม 100 บาท เนื่องจากจอดอยู่บริเวณจุดห้ามจอดในบริเวณป้ายรถประจำทาง ซึ่งทั้งคู่ก็เข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไม่ได้มีการเปรียบเทียบปรับเต็มจำนวนแต่อย่างใด

 

Sponsored Ad

 





    รองโฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีนโยบายการบังคับใช้กฎหมายไม่ให้มีการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจซ้ำเติมประชาชน จะเน้นการว่ากล่าวตักเตือนก่อน แต่หากทำให้กระทบกับการจราจรอาจจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะไม่เอาการบังคับใช้กฎหมายซ้ำเติมประชาชนอย่างเด็ดขาด

ที่มา : khaosod

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ