"หนิง"เล่าย้อนชีวิตอันแสนเจ็บปวด ทำงาน 4 ประเทศหวังรวย ช่วยเหลือที่บ้าน สุดท้ายเหลือแต่ตัว

คอมเมนต์:

หากวันนี้ย้อนเวลาได้ ก็จะไม่ทำ

    ชีวิตที่เหมือนตกนรกทั้งเป็น ของ คุณหนิง อดีตหญิงโสเภณี ที่เดินทางไปทำมาหากินมาแล้วกว่า 4 ประเทศทั่วโลก โดนบังคับให้รับแขกวันละ 50 คน ปัจจุบันผันตัวมาเป็นยูทูปเบอร์และวิทยากรให้ความรู้คน

    คุณหนิงได้เล่าว่า ทำอาชีพนี้มาตั้งแต่อายุ 18 ปี ตอนนั้นเพิ่งคลอดลูกได้ใหม่ๆ ด้วยฐานะที่บ้านไม่ดี และไม่มีเงินเลี้ยงลูก เลยไปทำงานที่ห้างเป็นเด็กเสิร์ฟ แต่ก็ยังไม่พอใช้ จนเพื่อนมาชวนไปทำงานเสิร์ฟที่พัทยา พอไปถึงก็เข้าไปนั่งในตู้ ก็คิดว่าเวลาแขกเลือกก็แค่ออกไปทำงาน ไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะเป็นการขายตัว 

 

Sponsored Ad

 

    พอมีแขกมาเรียก ชงเหล้าเสร็จก็ถูกพาเข้าไปโรงแรม แล้วลูกค้าก็สั่งให้นอนด้วยกัน ตอนนั้นก็ขัดขืนเพราะไม่ได้จะมาขายตัว และไม่เคยหลับนอนกับคนแปลกหน้า ก็พยายามอ้อนอยู่นาน และบอกว่ามาทำงานเสิร์ฟเพราะจะหาเงินเลี้ยงลูกที่พึ่งคลอด ลูกค้าก็เสนอราคาให้ 4 พัน พอคิดถึงว่าที่บ้านกำลังลำบากก็เลยยอมที่จะทำ

    เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ต้องเข้าใจก่อนว่า ไม่มีคนมาทำอาชีพแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่ละคืนได้เงิน 5,000-6,000 บาท แต่ปัจจุบันอาจจะ 300-500 บาทแล้ว เธอเล่าว่าตอนแรกกะว่าจะทำงานไม่กี่เดือนก็กลับบ้านแล้ว แต่ด้วยความที่เงินมันหาง่าย  มีทั้งกินเที่ยวเล่นช็อปปิ้งชีวิตอยู่ดีกินดี ก็ทำงานยาวไป 20 กว่าปีถึงลาวงการ

 

Sponsored Ad

 

    วงการนี้เข้าแล้วออกยาก เพราะเงินที่ได้มาง่ายมันทำให้ติดใจและหลงใหลไปกับเงินตรงนั้น ไม่มีคนไหนที่ทำงานนี้แล้วรวย นอกจากฟลุคได้สามีรวย ที่เขาพาไปแต่งงานอยู่ด้วยเท่านั้นแหละ แต่ละคนเจอลูกค้ามากมาย ทั้งดีทั้งแย่ แต่ไม่มีใครมาเล่าเรื่องแย่ๆ ที่โดนให้ฟังเพราะมันน่าอาย ก็เลยอวดแต่สิ่งดีๆ ของเบรนด์เนม ก็เลยทำให้คนอื่นอยากทำบ้าง

 

Sponsored Ad

 

    เธอบอกไปทำงานแบบนี้มาแล้ว 4 ประเทศ ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น บาเรนห์ ถ้ารวมไทยก็เป็น 5 ประเทศ เวลาไปทำงานต่างประเทศต้องทำงานใช้ค่าแท็กให้กับทีมที่จัดส่งไป ตอนไปสิงคโปร์จ่ายค่าแท็กเป็นรายหัว ประมาณ 80 คือ ก็คือรับลูกค้า 80 คนโดยไม่ได้เงินสักบาท แต่หลังจากนั้นก็จะได้เป็นเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าไปญี่ปุ่นก็จ่ายเป็นเงิน บางคนอยู่ได้ 7-10 ปีเลย

    ตอนไปอยู่ญี่ปุ่นก็ดันไปอยู่กับแก๊งมาเฟีย เข้าไปโดยไม่รู้ตัว แต่ตอนนั้นมีหน้าที่แค่ดูแลคนในร้านไม่ต้องรับงาน แต่ก็ไปไหนไม่ได้อยู่ดี เลยหนีไปอยู่ด้านนอก ทำงานเองเก็บเงินเอง สุดท้ายเขาก็ตามหาจนเจอแล้วโดนซ้อม หลายคนบริการไม่ดี ลูกค้าไม่พอใจก็โดนตี บางคนตื่นมาโดนขโมยเงิน แต่ก็ไปแจ้งความไม่ได้เพราะงานนี้มันผิดกฎหมาย

 

Sponsored Ad

 

    ตอนไปอยู่ฮ่องกงโดนบังคับให้รับลูกค้า ต้องทำรอบให้ได้มากกว่า 40-50 คน วันนึงทำงานตั้งแต่ 10 โมงเช้ายาวไปถึงตีสี่ แต่วันนึงก็ทนไม่ไหวแล้ว ไม่เอาแล้วเงิน คิดอย่างเดียวอยากกลับเมืองไทย เลยเดินไปหาตำรวจแล้วบอกว่าจับหน่อย ทำงานไม่ไหวแล้ว อยากกลับเมืองไทย

    ก่อนจะเลิกอาชีพนี้ได้ตกหลุมรักผู้ชายไทยคนนึง 7-8 ปี ยอมทิ้งงานตรงนั้นมาทำค้าขายในตลาด แม้จะเหนื่อยจะอาย ไม่ได้ใช้ของหรูของแพงก็ยอมทำ เพราะเจอคนที่รักแล้ว คนอาชีพนี้จะหยุดได้ถ้าวันนึงเจอคนที่รัก แต่วันนึงเขาก็เจอคนใหม่เขาก็ทิ้งไป ก็เลยวนกลับมาที่เดิม แต่ตอนนั้นไม่ได้รับงาน แค่ไปขายขนม ไปทำงานปูเตียงซักผ้าแทน แต่ชีวิตก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย เลยกลับเข้าวงการอีกครั้ง

 

Sponsored Ad

 

    ตอนนั้นคิดว่าแค่อยากมีบ้านสักหลัง ก็เลยไปทำงานที่บาเรนห์ จนผ่าน 3 ปีก็โดจนจับส่งตัวกลับประเทศ กลับมาก็หันหลังให้วงการนั้นไปเลย เริ่มเขียนหนังสือ เริ่มมีคนเห็นคุณค่า มีนักศึกษาให้เกียรติไปเป็นวิทยากร เอาเรื่องนี้ไปทำวิทยานิพนธ์ พอมีคนเห็นค่าเรา เราก็เห็นค่าในตัวเอง ก็เลยเลิกทำอาชีพนั้นไปเลย

 

Sponsored Ad

 

    หลังจากเลิกอาชีพนี้ก็ผันตัวมาเป็นนักเขียนและยูทูปเบอร์ แต่ก็มีเรื่องดราม่าเกิดขึ้นหลังไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้คลินิกเสริมความงาม เจ้าของคลินิกเป็นแฟนคลับ แต่หมอที่อยู่ในคลินิกเขาไม่โอเค เพราะเขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ทำงานอะไรมาก่อน ทุกวันนี้พยายามสอนเด็กรุ่นใหม่ว่าอย่าทำอาชีพนี้ เพราะโลกนี้มีคนอีกมากมายที่ไม่ได้โอกาสคนกลับสู่สังคม เขาตีตราและลดค่าคนทำอาชีพนี้ไปแล้ว

    ผ่านมา 20 กว่าปี เรียกว่าเป็นชีวิตที่ตกนรกได้เลย เข้าไปนอนคุกทุกประเทศที่ไป ติดคุกเพราะเลือกทำอาชีพนี้ ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว ถูกจองจำไม่อิสรภาพ สังคมจะตีตราไปจนตาย วันไหนมีสามี เวลาทะเลาะกันเขาก็อาจจะขุดเรื่องนี้มาได้ ดังนั้นไปทำอาชีพอื่นจะดีกว่า

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ที่มา : NationTV


บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ