เปิดชีวิตอดีตน้องหมาจรจัด สู่สุนัขทหารตัวแรกของโลก ช่วยชีวิตประเทศชาติมาแล้วนับไม่ถ้วน

คอมเมนต์:

น้องเก่งกล้า แถมยังใช้ความสามารถพิเศษของตัวเองก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ

    วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ สตั๊บบี้ (Stubby) น้องหมาพิตบูล เทอร์เรียผสม สุนัขทหารตัวแรกของโลก ตำแหน่งผู้ช่วยทหารประจำกองทัพสหรัฐฯ ผู้เข้มแข็งผ่านเรื่องราวเลวร้ายจากสงครามมาแล้วนับไม่ถ้วน

    Stubby เป็นสุนัขพันธุ์พิทบูลเทอร์เรีย (Pitbull Terrier) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่สมัยสงครามครั้งที่ 1 ได้รับเหรียญกล้าหาญมาแล้วจนนับไม่ถ้วน ถือเป็นสุนัขทหารตัวแรกของอเมริกาและของโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งจะทำหน้าที่อยู่ในค่ายทหารและสงครามโลกกว่า 18 เดือน และมีส่วนในการรบอีก 17 ครั้ง 

 

Sponsored Ad

 

    ความเก่งและกล้าหาญของเจ้า Stubby ทำให้มันได้เลื่อนตำแหน่ง ติดยศจากกองทัพและได้รับเหรียญกล้าหาญ ติดยศเป็นสิบเอกก่อนที่เขาจะอายุครบ 2 ขวบด้วยซ้ำ นอกจากนี้เจ้าสทูบบี้ก็เป็นเหมือนมาสคอตประจำหน่วยทาหารราบที่ 102 อีกด้วย

    เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2460 ตอนนี้ Stubby  ยังเป็นเพียงแค่น้องหมาจรจัดตัวหนึ่งที่ใช้ชีวิตเดินเร่ร่อนไร้จุดหมาย ในระแวกในมหาวิทยาลัยเยล, นิวเฮเวน รัฐคอนเน็กติกัต ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

Sponsored Ad

 

    จนกระทั่งวันหนึ่งได้พบกับ โรเบิร์ต คอนรอย(Robert Conroy) นายทหารหนุ่มจากหน่วยทหารราบที่ 102 ของกองทัพสหรัฐฯ ที่บังเอิญผ่านมาพบมันเข้า เขาถูกชะตากับเจ้าสทูบบี้ จึงแอบเอามาเลี้ยงไว้ในค่ายทหาร ซึ่งต่อมาก็ถูกจับได้ แต่ก็ได้รับการยินยอมจากผู้บังคับบัญชาให้เลี้ยงเจ้าสทูบบี้ได้ หลังจากนั้นเจ้าสทูบบี้ก็ได้ทำหน้าที่รับใช้ชาติ

    Stubby มีทักษะต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อเหล่าทหารและกองทัพสหรัฐฯเขามีประสาทสัมผัสด้านการได้ยินที่ดีเยี่ยม แม้ว่าครั้งแรกมันได้รับบาดเจ็บจากแก็สพิษ (mustard gas) ซึ่งหลังจากที่มันรักษาตัวเสร็จ ก็กลับมารบอีกครั้งคราวนี้มาพร้อมกับหน้ากากกันแก็สพิษซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อมันโดยเฉพาะ อีกทั้งยังได้เรียนรู้วิธีเตือนภัยเมื่อมีแก็สพิษ ทำให้กองทหารราบที่ 102 รอดพ้นจากการโจมตีด้วยแก็สพิษหลายครั้ง

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากนี้เจ้า Stubby ยังสามารถได้ยินเสียงกระสุนปืนได้ในระยะไกลก่อนที่จะถูกยิงเข้ามาโดนทหาร จนมันกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญให้หน่วยรบนี้ซะแล้ว

    นอกจากงานด้านศึกสงครามแล้ว Stubby ยังใช้ความน่ารักและเป็นมิตรของเขารับบทเป็นน้องหมานักบำบัดในกองทัพอีกด้วย มันจะเข้าไปปลอบโยนและให้กำลังใจเหล่าทหารกล้าที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ หรือนายทหารที่กำลังอยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต เขาจะนั่งหรือนอนอยู่ข้างๆ อย่างรู้งานเพื่อดูแลจิตใจของเหล่าทหารได้รู้สึกผ่อนคลายและเป็นสุขมากขึ้นก่อนที่จะจากโลกนี้ไปหลังจากได้สละชีวิตเพื่อชาติอย่างกล้าหาญ

 

Sponsored Ad

 

    Stubby กลายเป็นพลทหารสี่ขาที่ทำหน้าที่ของเขาได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดของกองทัพสหรัฐในเวลานั้น แม้เขาจะได้รับบาดเจ็บจากการออกรบหลายครั้งทั้งโดนสะเก็ดระเบิดและจากแก๊สพิษ แต่Stubbyกลับไม่เคยหวั่นเกรงหรือท้อถอยเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขายังคงวิ่งนำหน้าเหล่าทหารหาญเสมอ หลังจากใช้เวลานานกว่า 18 เดือนที่ประเทศฝรั่งเศสในที่สุดสงครามโลกที่แสนโหดร้ายก็สิ้นสุดลง มันได้กลับบ้านพร้อมกับนายทหารผู้กล้าหาญคนอื่น ๆ และยังได้ร่วมเดินนำหน้าในขบวนพาเหรดฉลองชัยชนะในครั้งนั้นด้วย เขายิ้มด้วยท่าทางที่ดูเป็นมิตรให้กับผู้คนที่มารอต้อนรับ ผู้คนเหล่านั้นคือคนที่สตั๊บบี้เสี่ยงชีพเพื่อปกป้องเอาไว้สตั๊บบี้เดินนำหน้าอย่างภาคภูมิด้วยท่าทางที่ดูสง่างาม

 

Sponsored Ad

 

    หลังจากชื่อและเรื่องราวของ Stubbyอดีตน้องหมาจรจัด ที่ถูกนำพาด้วยโชคชะตาความรักที่โรเบิร์ตมอบให้ กระทั่งชีวิตดำเนินมาไกลได้มีโอกาสได้สร้างคุณูปการด้วยวีรกรรมกล้าหาญจนกลายเป็นฮีโร่ ได้ถูกเผยแพร่สู่สาธารณชนจากการตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์ นิว ยอร์ก ไทม์ ผู้คนมากมายให้ความสนใจและได้รู้จักกับสตั๊บบี้มากขึ้น ทำให้สตั๊บบี้ยิ่งกลายเป็นที่รู้จักและถูกยกย่องให้เป็นผู้กล้าหาญเช่น ฮีโร่

ภาพจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์

 

Sponsored Ad

 

    นิวยอร์กไทม์ กล่าวว่า เขาเป็นแหล่งกำเนิดความสุข เพื่อนทหารของสตั๊บบี้ก็ได้กล่าวยืนยันเช่นกันว่าทักษะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของสตั๊บบี้ก็คือ การปลอบโยนและมอบความสุขสร้างรอยยิ้มสตั๊บบี้คือความสุขเดียวที่จะช่วยทำให้ทหารหลายนายผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากในสงครามที่โหดร้ายและตึงเครียดนั้นมาได้

Sponsored Ad

    จนเมื่อ พ.ศ. 2469 สิบเอกสตั๊บบี้ก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบขณะอายุได้ประมาณ 10 ปี ในอ้อมกอดของโรเบิร์ต คอนรอย พลทหารหนุ่มผู้หยิบยื่นชีวิตใหม่ให้กับเขา ชื่อของสตั๊บบี้ได้รับการจารึกไว้บนกำแพงร่วมกับชื่อทหารกล้าผู้เสียสละชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 ทุกๆ คนด้วย

    เรื่องราวของ Stubby ได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า ทุกชีวิตล้วนเกิดมาสมบูรณ์แบบในรูปแบบของตัวเอง ไม่มีใครที่ไร้ค่า จงภูมิใจในตัวเองอย่ายอมแพ้ต่อโชคชะตา คร่ำครวญกับฝันร้ายให้น้อยที่สุด แล้วสู้และยืนหยัดเพื่อจะมีชีวิตต่ออย่างมีคุณค่ามีความหมาย ทุกชีวิตเป็นผู้ชนะได้ถ้ากล้าหาญ

ที่มา : BBC, BuzzFeed, 3milliondogs

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ