อดีตโปรดิวเซอร์มือทองวัย 53 ผันตัวทำ "เกษตรพอเพียง" บนที่ 1ไร่ ขายดีจนต้องจองคิวซื้อ

คอมเมนต์:

"ใครก็ว่าเกษตรพอเพียงต้องจน แต่จริงๆ แล้วมันก็คือความพอดี เศรษฐกิจพอเพียงก็รวยได้ แต่ว่าไม่เบียดเบียนคนอื่นและตัวเอง จนมันทำไปแล้วไม่มีความสุข" - คุณเจ๋ง-อรรถกานนท์

        ณ ย่านพหลโยธิน 52 บนพื้นที่ 1 ไร่ ใจกลางกรุงเทพฯ ได้กลายเป็นพื้นที่ของ “สวนในศีล” ที่มีทั้งบ้านอยู่อาศัย ทั้งแปลงผัก เลี้ยงไก่ และ บ่อกุ้ง ที่ลงทุนลงแรงปลูก และเลี้ยงด้วยตัวเอง อย่างปลอดสารเคมี

        เจ๋ง-อรรถกานนท์ พิมพ์วงศ์ ชายวัย 53 ปี เกษตรกลางกรุง “สวนในศีล” พร้อมทั้งเป็นอดีตโปรดิวเซอร์มือทอง รายการผู้หญิงถึงผู้หญิง ช่อง 3 ที่ผันตัวเองลาออกจากงาน สร้างกิจกรรมให้ลูกชายด้วยการทำเกษตรพอเพียง

 

Sponsored Ad

 

        “บางคนก็คิดว่าเศรษฐกิจพอเพียงต้องจนนะ ถึงต้องไปทำเกษตร แต่จริงๆ แล้วเศรษฐกิจพอเพียงมันก็คือความพอดีครับ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ไม่ใช่เฉพาะเกษตรนะครับ จะทำอาชีพอะไร เป็นพนักงานออฟฟิศ พนักงานบริษัทอาชีพอะไรก็แล้วแต่ เอาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ได้หมด นำไปปรับใช้ได้ เพราะว่ามันก็คือความพอดีครับ แต่จริงๆ เศรษฐกิจพอเพียงก็รวยได้ ก็มีเงินได้ แต่ว่าทำให้มันอยู่ในความพอดี ไม่เบียดเบียนคนอื่น และก็ไม่เบียดเบียนตัวเอง จนมันทำไปแล้วไม่มีความสุข”

        ไม่ว่าสถานการณ์จะวิกฤตแค่ไหน อดีตโปรดิวเซอร์มือทองก็เชื่อว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นอีกทางรอดอย่างแท้จริง และยังเชื่ออีกว่าเศรษฐกิจพอเพียงยังสามารถทำให้รวยได้อีกด้วย

 

Sponsored Ad

 

        "พอเราปลูกผักแล้ว เลี้ยงกุ้งแล้ว ก็อยากจะมีไก่ไข่ไว้ทานบ้าง จนกระทั่งเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว ออกจากงาน พอออกปุ๊บสิ่งแรกที่ทำเลยคือเลี้ยงไก่ เพราะว่าเป็นสิ่งที่อยากจะทำตั้งนานแล้ว ก็เลยเริ่มเลี้ยง เริ่มหาความรู้ไปเรื่อยๆ

        ไก่ที่นี่โชคดี เลี้ยงประคบประหงมมากครับ ก็ได้ผลผลิตที่ดี นอกจากให้อาหารเช้าเย็น กลางวันเราก็จะให้ผัก ผลไม้ แล้วก็ผสมสมุนไพร ฟ้าทะลายโจร บอระเพ็ด ขมิ้นชัน ทั้งผสมอาหารด้วย ผสมน้ำด้วย แล้วก็เลี้ยงแบบเขามีความสุขครับ อันนี้มันก็เหมือนกับสิ่งที่เราทำให้ไก่มันก็อาจจะไปสะสมอยู่ในไข่ เป็นอาหารที่เราต้องกินต่อไป พอหลายๆ คนรู้วิธีการที่เราทำแบบนี้ ก็เลยอยากจะชิมบ้าง ตอนนี้ก็เลย นอกจากเลี้ยงไว้ทานเอง ก็มีรอต่อคิวซื้อ ที่เราเลี้ยงเราใช้ชื่อว่าไข่อารมณ์เย็น คือ ที่อารมณ์เย็น คนซื้อต้องอารมณ์เย็นรอนิดหนึ่ง เพราะว่าไก่ไม่ได้เลี้ยงเยอะ ก็ต้องอารมณ์เย็น ใจเย็นรอนิดหนึ่ง

 

Sponsored Ad

 

        ก็เนื่องจากอาจจะเป็น หนึ่ง คือ เราเลี้ยงน้อย ก็อาจจะมีเวลาดูแลได้ทั่วถึง กับ สอง ก็คือ มันเป็นความตั้งใจของเราที่แบบว่าอยากเลี้ยง แล้วก็เราเลี้ยงไว้กินเอง เลี้ยงแบบมันมีคุณภาพมากหน่อย”

        จุดเริ่มต้นความพอเพียง “เริ่มที่จะคิดทำสวนก็คือพอมีลูก ตอนนั้นพอเขาอายุ 1 ขวบ ก็เลยกลัวเขาจะติดโทรศัพท์มือถือ ติดทีวี หรือติดเทคโนโลยีก็เลยทดลองทำแปลงผักขึ้นมาสัก 2 แปลง จริงๆ ก็คือ ไม่ได้ตั้งใจจะปลูกผัก ตั้งใจจะให้มีที่เล่น เขาจะได้เล่นดิน เล่นทราย เล่นกิจกรรมกลางแจ้ง พอทำไปทำมาเขาก็เกิดชอบ”

 

Sponsored Ad

 

        ซึ่งเดิมทีพื้นที่แห่งนี้เป็นที่ส่งต่อมาจากสมัยบรรพบุรุษ หลังจากแต่งงานเมื่อ 10 ปีก่อน จึงย้ายมาออกมาอยู่

        “ผมว่าพื้นฐานของเด็กๆ ทุกคนเขาชอบมีกิจกรรมกลางแจ้งได้เล่น ได้ออกแรง ได้มีactivityกลางแจ้งมากกว่า แต่โอกาสเขา เด็กๆ บางคนอาจจะไม่มี หรือว่าบางทีอาจจะเป็นไลฟ์สไตล์ของพ่อแม่ที่ไม่ค่อยชอบให้เล่นกิจกรรมกลางแจ้งอะไรอย่างนี้ด้วย"

        “จากที่เริ่มเล่นกับลูกเล็กๆ แล้วก็ปลูกขึ้นมา ขยายจากแปลงสองแปลง สามแปลง แต่ตอนนั้นปลูกแบบไม่ได้มีความรู้อะไร ก็คือเอาเล่นกับลูกเป็นหลัก แล้วก็คือเอาเมล็ดผักมาลงก็โต ก็เก็บได้บ้าง เสียบ้าง มีเวลาก็ทำ เพราะว่าช่วงนั้นทำงานด้วย คือ ถ้าไม่มีเวลาบางทีแปลงก็ปล่อยรกบ้าง

 

Sponsored Ad

 

        จนกระทั่งมาถึงช่วงที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ สวรรคต ก็เลยมีโอกาส เพราะตอนนั้นทำรายการอยู่ด้วย ก็เลยมีโอกาสไปทำสารคดี ทำข่าว ทำรายการเกี่ยวกับเกษตรทฤษฎีใหม่ หรือเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งต้องออกไปพบกับบรรดาปราชญ์เศรษฐกิจที่เขานำทฤษฎีในหลวงมาใช้แล้วประสบความสำเร็จ คือ โชคดีที่ได้เจอกับคนเก่งๆ ในระดับประเทศ เราได้เจอหลายๆ ท่าน เพราะว่าเราต้องทำสารคดีพวกนี้ครับ ก็เลยได้ความรู้ และก็ได้แรงบันดาลใจมาจากท่านเหล่านี้”

.

 

Sponsored Ad

 

        กว่าจะประสบความสำเร็จมาถึงวันนี้ได้ ก็ลองผิดลองถูกมาเยอะ และนอกจากจะได้ความรู้จากปราชญ์ที่ไปพบเจอมาแล้ว ยังอยากสืบสานน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงให้คนรุ่นหลังได้รู้บ้าง

        “ลองผิดลองถูกมาเยอะมาก เพราะว่าเนื่องจากไม่มีความรู้ด้านเกษตร จนกระทั่งนำมาปรับใช้ก็ได้ผลมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการที่เราลดการใช้สารเคมี แล้วก็ทำยังไงให้ผลผลิตที่เราต้องการมันออกมาได้ดี โดยที่เราก็หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี แล้วอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ อยากให้เป็นตัวอย่างสำหรับคนที่อยากทำเกษตร คือ บางคนพอทำเกษตรอาจจะทำเกษตรเชิงเดี่ยว คือสมมติว่าปลูกมะนาวก็ปลูกมะนาว มีที่ 10 ไร่ ก็อยากจะปลูกมะนาวขายหมดเลย ปลูกมะม่วงก็ปลูกมะม่วงทั้งหมดเลย

Sponsored Ad

        แต่แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ ก็คือ การปลูกพืชผสมผสานแบบหลากหลาย เพื่อหนึ่งก็คือเวลาเราเสียหายจากพืชอย่างหนึ่งเราก็มีพืช หรือมีอีกอย่างหนึ่งคอยสนับสนุน และก็สามารถมีวิถีชีวิตที่พึ่งพาตัวเองได้ในพื้นที่ของเราทั้งหมด

        นอกจากนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ใจจริงก็อยากจะเผยแพร่เกษตรทฤษฎีใหม่ หรือสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านทำ ให้คนรุ่นหลังได้รู้บ้าง ก็เลยเอามาใช้ในสวนของตัวเอง”

        “นอกจากขายได้แล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัด ก็คือ มันลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะมากครับ เพราะว่าอย่างที่บอก ก็ดูจากตลาด หรือว่าดูจากรถกับข้าวว่าเราซื้ออะไร แล้วเราก็เอาที่เราซื้อ เอามาปลูกซะ นอกจากที่มันไม่ได้จริงๆ อย่างเช่น หมู”

        หลักการง่ายๆ เริ่มจากสังเกตชีวิตประจำวัน ว่า ในแต่ละวันเรากินอะไรไปบ้าง ซื้ออะไรไปบ้าง และที่สำคัญปลูกสิ่งที่กิน กินสิ่งที่ปลูก ก็จะสามารถลดค่าใช้จ่าย แล้วก็เพิ่มรายได้ โดยส่วนใหญ่มันก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้หมด เราก็ปลูกหมด มีทั้งคะน้า ผักกาดขาว มีกวางตุ้ง มีผักสลัด ก็คือ อยากกินอะไรก็เอามาปลูกเลย เหลือก็แจกก่อน พอแจกแล้วก็ขาย”

        ขณะเดียวกัน นอกจากจะลดค่าใช้จ่ายเรื่องค่าอาหารแล้วนั้น ตอนนี้ขายแทบไม่ทัน เพราะมีคนมาต่อคิวซื้อกันเยอะมาก

        “ในความเป็นจริงที่ขายแทบไม่ทัน คือ เนื่องจากว่าพื้นที่เราไม่ได้มีเยอะ แล้วก็ปลูกหลากหลาย อย่างคะน้าเราก็มีแปลงหนึ่ง กวางตุ้งก็มีแปลงหนึ่ง ผักกาดขาวก็สองแปลง คือ เราปลูกเพื่อกินเองเป็นหลัก แล้วทีนี้ที่เหลือเราก็ขาย ทีนี้เนื่องจากมันมีความหลากหลาย เราก็เลยไม่ได้มีผลผลิตที่ขายเป็นล่ำเป็นสัน แต่ว่าที่ทำไม่ทันเนื่องจากพอเขารู้ว่าเรามีกระบวนการการทำยังไง ความตั้งใจของเราเป็นยังไง ก็เลยมีคนอยากได้ ก็เลยทำก็เกือบจะไม่ทันครับ โดยเฉพาะเรื่องของไก่ไข่

        ก็คือตอนนี้ก็มีเอาไปวางขายที่ร้านออร์แกนิก คือ เป็นร้านกาแฟแล้วก็เป็นร้านออร์แกนิก แล้วก็ร้านสุขภาพก็สองที่ แล้วก็มีคนมารับซื้อที่บ้านด้วยครับ แล้วก็ส่งออนไลน์ด้วย แต่ว่าอย่างผักก็อาจจะส่งลำบากนิดหนึ่ง กับอีกอันหนึ่งค่าส่งมันอาจจะไม่คุ้มกับค่าผัก อย่างเช่น ซื้อผักสลัด 2 ต้น ค่าส่งมันก็อาจจะเยอะหน่อย แต่ว่าถ้าคนชอบจริงๆ เขาก็จะมารับถึงที่บ้าน หรือไม่ก็ไปซื้อที่ร้านที่เราไปฝากวางไว้”

.

        เลี้ยงลูกแบบไม่คาดหวัง เน้นกิจกรรมเป็นหลัก

        ตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ทำสวนในศีลขึ้นมา กิจกรรมปลูกผักที่สร้างขึ้นมาให้เขาได้ลงมือทำเอง ก็เห็นผลได้ชัดเจน คือ กลายเป็นเด็กอารมณ์ดี มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง “เขากลายเป็นเป็นเด็กที่อารมณ์ดี กลายเป็นเด็กสวนที่วิ่งตากแดด ตากลม สนุกสนานไป แล้วก็มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีอารมณ์ดีครับ"

.

.

ที่มา : เฟซบุ๊ก “สวนในศีล”

บทความที่คุณอาจสนใจ