ครอบครัวรักป่า ใช้เงินเก็บซื้อที่ดินสร้างป่าฝน แต่เจออุปสรรค ที่ทำมากลายเป็นศูนย์

คอมเมนต์:

ระยะเวลา 17 ปี ไม่ใช่ง่ายๆเลย กว่าจะทำให้กลายเป็นป่าผืนใหญ่มหาศาลที่อดุมสมบรูณ์

หมายเหตุ: สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

    เนื่องจากการทำลายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ไม่สิ้นสุดของมนุษยชาติ ทำให้พื้นที่ของป่าฝนเขตร้อนจึงหดตัวลงทุกปี โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตทางนิเวศวิทยาที่รุนแรงคุณเต็มใจที่จะทุ่มเททำคุณประโยชน์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมมากเท่าใด? 

    สื่อต่างประเทศเปิดเผยว่า ในปี 1997 ดร.โจเซฟ มากราฟ (Dr.Josef Margraf) นักนิเวศวิทยาชาวเยอรมัน ได้รับเชิญจากรัฐบาลเยอรมันให้มาที่สิบสองปันนา ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีนเพื่อดำเนินงานปลูกป่าและฟื้นฟูป่าฝนซึ่งทำให้เขาได้รับการขนานนามว่าเป็น "บิดาแห่งการฟื้นฟูป่าฝน"

 

Sponsored Ad

 

    ต่อมาเขาได้พบรักกับ หลี่หมิงกัว หญิงชาวยูนนาน เขาตกหลุมรักกันและได้แต่งงานกัน หลังจากแต่งงานทั้งสองอาศัยอยู่ในป่าฝนสิบสองปันนา ทั้งคู่ตัดสินใจร่วมมือกันเพื่อเผชิญกับภารกิจสำคัญในการปกป้องและฟื้นฟูป่าฝน

 

Sponsored Ad

 

.

    ในเวลานั้นชาวสิบสองปันนาจำนวนมากแสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ตัดป่าดงดิบโดยพลการ ป่าฝนทุกต้นถูกปกคลุมด้วยต้นยางเพียงต้นเดียว หลังจากนั้นหลายปีป่าฝนเขตร้อน 400,000 เฮกตาร์ (ประมาณ 2,500,000 ไร่) เดิมก็หายไปในพริบตา

 

Sponsored Ad

 

    เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่มีการปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของดินจึงลดลงและหลายหมู่บ้านในสิบสองปันนาได้เห็นปรากฏการณ์น้ำประปาและน้ำบาดาลขาดแคลนในระยะยาว สภาพอากาศในป่าฝนมีผลกระทบที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก

    ในสายตาของนักธุรกิจและชาวสวนยางต้นยางสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงิน เป็นเหมือนเงินด้านมืดในป่า แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติเหล่านี้ถูกละเลยโดยมนุษย์ภายใต้ผลประโยชน์ที่ได้รับ

 

Sponsored Ad

 

    เพื่อรักษาป่าฝนที่ถูกทำลาย ดร.โจเซฟ และ หลีหมิงกัว ได้ใช้เงินที่เก็บสะสมมาตลอดชีวิตของพวกเขาเพื่อซื้อที่ดินยางพาราขนาด 15 เอเคอร์ (ประมาณ 37.95 ไร่) โดยตั้งใจที่จะทำการทดลองปลูกป่าฝนบนผืนดินนี้ หากประสบความสำเร็จพวกเขาก็สามารถใช้แบบจำลองการปลูกป่าแห่งนี้ เพื่อฟื้นฟูป่าดงดิบให้ได้เกิดใหม่อีกครั้ง

 

Sponsored Ad

 

    พวกเขาได้สร้างบ้านให้กับตนเอง  และที่นั้นก็คือ Mekong Hill Garden และพวกเขาปลูกต้นไม้กว่า 4,500 ชนิดไว้ที่นี่

.

 

Sponsored Ad

 

    หลังจากทำงานหนักมาหลายปีดินแดนที่ปลูกต้นยางพาราได้รับการฟื้นฟูให้เป็นป่าดงดิบที่มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ แค่เพียงคุณได้ย่างก้าวเข้าสู่ป่าฝนในช่วงฤดูร้อนอุณหภูมิในป่าฝนจะลดลง 3 องศา

Sponsored Ad

    ต่อมาลูกสาวทั้งสองคนของพวกเขา ลินดา และ แวนด้า กำเนิดมา พวกเขาก็อาศัยอยู่ในป่าฝนกับพ่อแม่ พวกเขาไม่ได้ไปโรงเรียน แต่พ่อแม่ของพวกเขาสอนให้พวกเขาร้องเพลงเล่นเปียโน วาดรูปและเล่นหมากรุก ใช้ชีวิตในป่า

.

    ปกติสองพี่น้องจะวิ่งเล่นในป่าเป็นประจำ ไม่มีเรื่องกวนใจเหมือนคนในเมือง ในความคิดของพวกเขาโลกนี้เต็มด้วยความไร้เดียงสาและสงบสุข

    จนกระทั่งในปี 2007 ดร.โจเซฟ ได้ขายทรัพย์สินทั้งหมดในประเทศเยอรมัน และขอเช่าที่ดินของชาวบ้านประมาณ  6,666 เอเคอร์ (ประมาณ 16,865 ไร่) เพื่อจัดตั้งเขตป่าสงวน ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพของภาครัฐ แห่งแรกในประเทศจีน

    หลังจากที่พวกเขาทำงานอย่างหนักมากว่า 3 ปี ตอนนี้ที่นี่มีพันธุ์พืชเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และสัตว์ป่าจำนวนมากก็กลับมาเช่นกัน

.

.

    อย่างไรก็ตามในเดือนมกราคม ปี  2010  ดร.โจเซฟ ได้เสียชีวิตอย่างกะทันหันเนื่องจากอาการหัวใจวาย ในเดือนมีนาคมของปีถัดมา ป่าฝนถูกทำลายด้วยไฟป่าครั้งใหญ่ ตอนนั้นหลีหมิงกัวรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก แต่เธอก็ไม่คิดท้อ ตัดสินใจที่จะฟื้นฟูและทำภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้นของสามีให้สำเร็จ

    หลีหมิงกัว ทำทุกอย่างตั้งแต่การรวบรวมเมล็ดพันธุ์ การเพาะกล้า การเพาะปลูกและการวิจัยและพัฒนา นอกจากนี้เธอยังทำงานร่วมกับรัฐบาล นักธุรกิจและเกษตรกรด้วยการทำงานหนักของเธอ จนได้รับการสนับสนุนจากผู้คนมากมาย

    การกระทำของเธอในการปกป้องป่าฝนได้มาถึงองค์การสหประชาชาติ พวกเขาตัดสินใจมอบรางวัล "China is beautiful because of you" นอกจากนี้ LVMH ยังตัดสินใจร่วมมือกับ หลีหมิงกัวเพื่อสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว โดยใช้ใบชาผู่เอ๋อที่ปลูกในดินแดนแห่งนี้

.

    ลูกสาวทั้งสองก็รับมรดกจากพ่อของพวกเขา เดินทางออกสู่โลกภายนอกเป็นครั้งแรก และได้ไปแสดงในรายการ China Talent Show พวกเขาใช้เสียงจากธรรมชาติปลุกความสนใจของคนทั้งโลกที่มีต่อป่าฝนแห่งนี้  แม้แต่กรรมการชื่อดังของจีน Ni Ping ก็ยังหวั่นไหวและรู้สึกทึ่งกับการแสดงของพวกเขา


    ต่อมาพวกเขาก็ออกแสดงบนเวทีเรื่อยๆ เธอบอกว่า “เราต้องการให้คนอื่น ๆ มาปลูกต้นไม้ร่วมกับเราเพื่อปกป้องป่าฝนและผืนดิน และรักโลกใบนี้ให้มาก”

    ลินดา และแวนด้า ได้รับอิทธิพลจากพ่อแม่ของพวกเขา และมีการรับรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับป่าฝน พวกเขารู้วิธีใช้ชีวิตที่จะอยู่อย่างสงบสุขกับธรรมชาติ พวกเขารักและเข้าใจในสิ่งที่พ่อแม่ทำ

.

    เป็นเรื่องยากสำหรับเราที่อาศัยอยู่ในเมืองที่จะจินตนาการถึงชีวิตของพวกเขาในสิบสองปันนาและพวกเขาใช้วิธีดั้งเดิมที่สุดในการปกป้องดินแดนแห่งนี้อย่างเงียบ ๆ เป็นเวลา 17 ปี เพียงเพื่อชดเชยให้กับโลกในส่วนเล็กๆ เท่านั้น 

    หลีหมิงกัว ใช้เวลา 17 ปีในการทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เพียงเล็กน้อยอย่างไรก็ตามการทำลายสิ่งแวดล้อมโดยฝีมือมนุษย์ใช้เวลาเพียงครู่เดียว เราต้องมีความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสรักษาป่าฝนที่สวยงามนี้ไว้ให้คนรุ่นต่อไปได้!

.

.

    อย่าลืมติดตามผลงานของพวกเรานะ

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

 ที่มา : funtoday | เรียบเรียงโดย LIEKR

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ