หากใครที่รับน้องหมามาเลี้ยงแน่นอนว่าพวกเขาคือหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของครอบครัวที่อยากให้อยู่ด้วยกันในทุกช่วงเวลาของชีวิต อย่างเช่นหนุ่มรายนี้ที่อยากให้น้องหมาของเขาเป็นหนึ่งของการขอแฟนสาวแต่งงานด้วย

    Ghost คือสุนัข ที่เป็นที่รักของครอบครัวและมันก็รักพวกเขามาก ๆ เช่นกัน ในวันนั้น Mark กับแฟนสาว ได้ขับรถไปเที่ยวทะเลสาบ Mark กับแฟนสาวไปเที่ยวทะเลสาบ Lake Geneva รัฐวิสคอนซิน

    แต่จริง ๆ แล้ว Mark ได้วางแผน จะขอแฟนสาว Ashley Whiting แต่งงาน โดยให้ Ghost เป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการขอแต่งงานในครั้งนี้นั่นเอง

    แฟนสาวเล่าว่า ทั้งน้องสาวของเธอและเขา ต่างก็มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือในการเตรียมแผนต่าง ๆ และยังมีเพื่อน ๆ อีกประมาณ 25 คน ครอบครัวของพวกเขาทั้งคู่และรวมไปถึงคุณยายวัย 96 ปี เฝ้าดูการขอแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ด้วย

    โดยรรดาเพื่อนๆ กับครอบครัว ก็เฝ้าดูในระยะไกล เพื่อไม่ให้เธอสังเกตเห็น เมื่อทั้งคู่เดินเล่นบนชายหาดไปได้สักระยะหนึ่ง Mark ก็ผิวปาก จากนั้นครอบครัวที่ซุ่มดูอยู่ก็ปล่อยเจ้าหมาออกไปหาพวกเขาทั้งคู่

    โดยที่ปลอกคอของเจ้าหมามีกระดาษ เขียนข้อความไว้ว่า "แม่จะแต่งงานกับพ่อหรือเปล่า?"

    เดิมทีในแผนที่วางไว้คือ เจ้าหมาจะต้องวิ่งไปหาพ่อแม่และนั่งลงข้าง ๆ แต่ Mark คงลืมไปว่า หมาของเขานั้นเป็นหมาจอมบ้าพลัง อยู่นิ่งๆ ไม่ค่อยได้

    มันวิ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง เมื่อถูกปล่อยเป็นอิสระจากที่ซ่อน กลายเป็นการขอแต่งงานที่ดูวุ่นวายไปนิด เพราะว่าที่เจ้าบ่าวต้องวิ่งตามจับเจ้าหมา เพื่อให้มันมานั่งข้าง ๆ เขา เพราะข้อความสำคัญอยู่ที่ปลอกคอของมัน

    แต่เนื่องจากบริเวณนั้นมีนกบินอยู่เป็นจำนวนมาก และเจ้าหมาก็สนุกไปกับการวิ่งไล่นก จนควบคุมตัวเองไม่ได้ ในขณะนั้นแฟนสาวของเขาก็ยังไม่รู้ตัว เพราะเธอมัวแต่สนใจแฟนหนุ่มที่กำลังตามไล่จับเจ้าหมาอยู่

    เมื่อเห็นว่าเจ้าหมาคงไม่ยอมให้จับตัวง่าย ๆ เขาเลยตัดสินใจจับมือแฟนสาว แล้วคุกเข่าขอเธอแต่งงาน ท่ามกลางบรรยากาศอันโรแมนติกนี้ เจ้าหมาก็ยังคงวิ่งไล่จับนกอย่างสนุกสนาน โดยไม่สนใจพ่อกับแม่

    ถึงแม้จะไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่ความน่ารักไร้เดียงสาของเจ้าหมาก็ทำให้ทุกหัวเราะอย่างมีความสุข เพราะภาพที่ถ่ายออกมามันช่างน่ารัก น่าขำ มากกว่าโรแมนติกซะอีก 

    Whiting แฟนสาวเผยว่า "การมีเจ้าหมาอยู่ในชีวิตคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตเรา มันมีความรักบริสุทธ์ให้เรา และมันก็วุ่นวายเช่นกัน"

    หลังจากนั้นผ่านไม่กี่เดือน ทั้งคู่ก็ได้วางแผนจัดงานแต่ง โดยให้เจ้าหมารับหน้าที่เป็นส่วนสำคัญของงานด้วย แม้จะรู้ว่ามันอาจจะสร้างความวุ่นวายอีก แต่พวกเขาก็ยินดีและอยากให้เจ้าหมารู้ว่ามันสำคัญสำหรับพวกเขามากขนาดไหน

ที่มา : thedodo