หนุ่มไปกินบุฟเฟ่ต์ชาบู ถูกร้านคิดเงินเพิ่ม เหตุเพราะตักแต่ "กุ้ง-เนื้อ" กินเยอะร้านขาดทุน

คอมเมนต์:

ร้านชาบูโร่ชี้แจง สังเกตมานานลูกค้าทานแต่เนื้อ ทานบุฟเฟ่ต์ต้องทานหลากหลาย!

    เป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก สำหรับกรณีของร้านชาบูชื่อดังร้านหนึ่ง ย่านพระรามเก้า ที่มีลูกค้ารายหนึ่งออกมาบอกเล่าประสบการณ์ว่า ขณะที่กำลังรับประทานอยู่ กลับมีพนักงานเข้ามาบอกว่าครั้งหน้าจะขอคิดราคาเพิ่ม เหตุเพราะลูกค้ารายนี้รับประทานแต่ เนื้อและกุ้ง

    ซึ่งทางต้นโพสต์ได้เล่าเหตุการณ์ว่า ตนเองได้ไปรับประทานบุฟเฟ่ต์ชาบูที่ร้านแห่งนี้มานานแล้ว และทุกครั้งก็ได้รับความพึงพอใจ รับประทานจนอิ่มและรู้สึกคุ้ม แต่จู่ๆ เจ้าของร้านกลับเดินเข้ามาบอกว่าจะคิดเงินเพิ่มจากราคาปกติ เพราะรับประทานโดยเฉพาะกุ้งเนื้อเยอะเกินไปจนร้านค้าไม่ได้กำไร

 

Sponsored Ad

 

    ประเด็นดังกล่าวยิ่งเพิ่มความสนใจให้กับสังคมออนไลน์ เมื่อทางร้านชื่อดังออกมาตอบโต้ว่า การรับประทานบุฟเฟ่ต์นั้น แปลว่าต้องรับประทานอย่างหลากหลาย ไม่ใช่เลือกแต่ กุ้ง เนื้อ โดยไม่เลือกอย่างอื่นเลย ไม่เช่นนั้นจะต้องเรียกว่าทานเนื้อและกุ้งลวกไม่ใช่ชาบู

    ทำให้ทางร้านถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปในวงกว้าง เนื่องจากหลายคนระบุว่า การรับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์คือการที่ลูกค้าสามารถเลือกรับประทานอะไรก็ได้ภายในร้านในปริมาณที่แต่ละคนพึงพอใจ ด้วยราคาเหมาจ่ายที่ตกลงกับทางร้านตั้งแต่แรก ถ้าหากต้องมานั่งคิดเงินการกินของแต่ละคน คงจะไม่สามารถเรียกว่าบุฟเฟ่ต์ได้

 

Sponsored Ad

 

.

    ต่อมาทางร้านได้ออกมาแถลงชี้แจงอีกครั้ง โดยระบุว่า ลูกค้าท่านดังกล่าวมาทานที่ร้านกว่า 3 ปีแล้ว วันนั้นทางร้านเข้าไปบอกลูกค้าว่า หากต้องการรับประทานบุฟเฟ่ต์ชาบูแบบไม่อั้นเหมือนเดิมก็ยินดีให้บริการ แต่ลูกค้าทานแต่เนื้อล้วน เลยจะขอมีนโยบายว่าจะขอขึ้นราคา "บุฟเฟ่ต์เนื้อแบบไม่อั้น" ทานเนื้อหรือกุ้งอย่างเดียว 549 บาท โดยเพิ่มจากราคาปกติ 200 บาท เน้นว่าตนไม่ได้ข่มขู่หรือเก็บเงินเพิ่มเลย ยังให้ลูกค้าทานตามปกติ หลังจากนี้ก็แล้วแต่ว่าลูกค้าจะมารับประทานต่อหรือไม่

 

Sponsored Ad

 

    จากการตอบโต้ดังกล่าว ทำให้มีกระแสความไม่พอใจต่อร้านชื่อดัง เนื่องจากหลายคนไม่เห็นด้วยในการระบุว่าเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่ตกลงราคาอาหารไว้แล้ว แต่สุดท้ายกลับมาขอขึ้นเงินเนื่องจากลูกค้าคนดังกล่าวเลือกรับประทาน และจะไม่ขอใช้บริการร้านดังกล่าวอีก

    ทั้งนี้ หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ร้านชาบูนางใน สาขาอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบไปด้วย ก็ได้รีบออกมาชี้แจงว่า ทางร้านสาขาอื่นๆ ไม่ได้มีนโยบายแบบนั้นเลย และแต่ละสาขาจะมีการบริหารร้านด้วยเจ้าของสาขานั้นเอง ลูกค้าสามารถมาทานและได้จ่ายในราคาปกติไม่เปลี่ยนแปลง

 

Sponsored Ad

 

    อีกทั้งยังเกิดกระแสการ #saveคุณลุงวันเลิด ผู้เป็นต้นตำรับชาบูนางใน ที่ใจดีให้สูตรชาบูนางในแก่เจ้าของแฟรนไชส์ฟรีๆ ไปต่อยอดกันเอง เนื่องจากคิดว่าการให้สูตรและอาชีพคน คือการทำบุญที่ดีที่สุด แต่กลับต้องมาเสียชื่อ เพียงเพราะร้านที่มีเรื่องตั้งอยู่ถัดกันไม่กี่ซอย

.

ที่มา : Nutmaethe Thanakitwuthikul

บทความที่คุณอาจสนใจ