แม้ว่าจะมีสถานการณ์ต่างๆ มากมาย แต่สังคมไทยก็ยังไม่สิ้นคนดี เหมือนอย่างเรื่องราวของ "เมศ เจ้าชายน้อย" หรือ "นายปรเมศร์ มีสมภพ" ที่เป็นอีกหนึ่งบุคคลปิดทองหลังพระ ผู้มุ่งมั่นที่จะทำความดีช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด

        ซึ่งล่าสุด นายปรเมศร์ มีสมภพ ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของเคสล่าสุดของเขา เป็นเรื่องราวของน้องพีค เด็กหนุ่มวัยเพียง 14 ปี ที่พักอาศัยอยู่กับพ่อ แม่ และน้องชายวัย 11 ปี ภายในห้องเช่าเล็กๆ น้องพีคเรียนอยู่ ชั้น ม.2 เป็นเด็กที่เรียนเก่ง ขยัน อดทน ตั้งใจเรียน แต่ด้วยความที่ฐานะทางบ้านยากจน ไม่มีเงินไปโรงเรียน ทำให้ตอนนี้เขาต้องแทบจะหมดสิทธิสอบบางวิชา คุณครูบางท่านที่ไม่ทราบเรื่อง ก็พยายามเตือนเค้าว่าให้มาโรงเรียนด้วยนะ

        “ผมอยากเรียนหนังสือ อยากเรียนให้จบ อย่างน้อย ม.3 ก็ยังดี จะได้หางานทำ เอาเงินมาซื้อข้าวให้พ่อ แม่ น้องได้กิน 

        แต่ความฝัน และ อนาคตกำลังจะจบลง เพียงเพราะเค้ายากจน ผมไม่อายเพื่อน แม่ผมจน พ่อผมจน ผมไม่เคยอายเพื่อนๆ เลย ในเมื่อเป็นแบบนี้ผมเข้าใจ

        ครอบครัวนี้พักอาศัยทั้งบ้านมีเงินเพียง 5 บาท เท่านั้น ทุกวันนี้ผู้เป็นพ่ออาศัยขับแท็กซี่ค่าเช่าวันนึง 1,000 บาทถ้าคุณพ่อขับแท็กซี่ได้ 1,100 บาท เงินส่วนต่าง 100 บาทนี่ละ จะเป็นเงินต่อชีวิต ให้ 3 ชีวิตที่นอนรอ ที่จะไปซื้อข้าว ซื้อน้ำ มานั่งกินกัน

        ส่วนตัวคุณ อุ้ม ภรรยา วัย 43 ปี เธอก็ออกไปทำงานที่ไหนไม่ได้ เพราะต้องอยู่ดูแล ลูกชายคนเล็ก วัย 11 ปี ที่ป่ ว ย เป็น อ อ ทิ ส ติ ก ควบคุมตัวเองไม่ได้ ส่วนน้องพีค วัย 14 ปี พี่ชายคนโตก็เป็นสมาธิสั้น แต่ด้วยความที่น้องพีค ตั้งใจเรียน ขยัน มานะ อดทน เค้าก็สอบได้รางวัลใบประกาศนียบัตร มาแล้วหลายที่ แต่ด้วยความที่ครอบครัวของเค้ายากจนทำให้ทุกวันนี้ น้องพีค แทบจะไม่ได้ไปเรียนเลย ถึงแม้ค่าเทอมจะไม่ได้เสีย ก็ตามแต่น้องพีค ไม่มีเงิน ไปโรงเรียน ทำให้เค้าต้องหยุดเรียนไป

        คุณแม่บอกว่า น้องเค้ารักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศิริราช แต่จำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้าย ไปหาหมอวันไหนเพราะไม่มีเงินค่ารถ วันไหนถ้าคุณพ่อพาลูกชายคนเล็กไปหาหมอ วันนั้นคือวันที่ ทั้ง 4 ชีวิต ต้องอดข้าว ไม่มีค่าเช่ารถ ทำให้ทุกวันนี้ 3 ชีวิตที่อยู่ในห้องเช่านี้ ต้องนอนรอความหวังเงินเพียง 100 – 200 บาท จากคนเป็นพ่อเท่านั้น…

        จากที่เมศนั่งดูภายในห้อง มีเพียงที่นอนสภาพเก่าๆ พัดลมตัวเล็กๆ หนึ่งตัว ทีวีเก่าๆ หนึ่งเครื่อง กระทะไฟฟ้าที่เอาไว้ทอดไข่หนึ่งใบแต่ไม่มีหม้อหุงข้าว น้องพีคยังพูดให้เมศฟังอีกว่า ตอนนี้ผมอยู่ ม.2 แล้วครับ ผมอยากเรียนให้จบ อย่างน้อย ม.3 ก็ยังดี ถ้าเรียนจบเมื่อไร ผมจะออกไปหางานทำ เอาเงินมาซื้อข้าว ให้พ่อ แม่ น้อง ได้กิน น้องจะได้มีเงินไปหาหมอ แต่ตอนนี้ผมไม่รู้อนาคตเลยว่าจะเป็นยังไง หรือว่าความฝันที่จะเรียนจบ มันคงไม่มีจริงๆละพี่

        เคสนี้เมศอาจจะเรียบเรียงคำพูด คำเขียนไม่ถูกเพราะเมศไม่รู้จะเริ่มต้นเขียน บรรยายยังไง เพราะสิ่งที่ผมรับรู้ว่า มันเป็นเรื่องราวคนของทั้งครอบครัว ที่ตกอยู่ในภาวะยากลำบากจริงๆ

        1 คนต้องขับรถแท็กซี่เพื่อหาเงินมาซื้อข้าว
        1 คนตัวคุณแม่ ก็ต้องอดทนหิว เพื่อให้ลูกๆ ได้กิน
        1 คนที่นอน ป่ ว ย โดยที่ไม่รับรู้อะไร
        และอีก 1 คน น้องพีค เด็กที่กำลังมีอนาคตที่สดใส ตั้งใจเรียน พูดเพราะขยัน อดทน แต่อนาคตกำลังจะดับไปเพียงเพราะบ้านเค้า ยากจนเท่านั้นเอง

        นี่ละครับ เงิน เพียง 5 บาท สำหรับใครหลายคน คิดว่าเป็นเศษเงิน ไม่มีค่า แต่สำหรับคนบ้างกลุ่ม เงิน 5 บาทนี่ละ เค้ากำในมือจนแน่น ไม่ให้หลุดไปไหน เพราะมันมีค่าต่อชีวิตของเค้ามาก เมศได้ส่งมอบความช่วยเหลือให้กับทางครอบครัวนี้เบื้องต้น

        เพื่อนๆ พี่ๆ คิดเอาไว้เสมอครับ ยังมีคนที่ลำบากกว่าเราอีก จงเป็นตุ๊กตาล้มลุก ที่ต่อให้มันล้ม กี่ครั้ง มันก็ลุกขึ้นยืน ได้ใหม่หมดแรงก็นั่งพัก แล้วลุกขึ้นเดินต่อไป "ถ้าถอดใจตอนนี้ ที่ผ่านมาจะมีค่าอะไร" ยิ้มกับปัญหา ต่อสู้กับอุปสรรคอย่าท้อกับปัญหา ครับ

        เรื่องราวทั้งหมด ทางคุณแม่ และ น้องพีค เป็นผู้ถ่ายทอดให้เมศรับทราบ และเมศได้รับอนุญาตจากทางครอบครัวทั้งหมดให้ถ่ายรูปและนำรายละเอียดเรื่องราวพร้อมรูปถ่าย ลงสื่อออนไลน์เรียบร้อยแล้วครับ สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือน้องเรียนดีแต่ฐานะยากจน สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊ก Poramet Misomphop

ข้อมูลและภาพจาก Poramet Misomphop