"ป้าบานเย็น" แห่งสวนทิพย์ จากคนที่ "เขียนหนังสือไม่ได้" สู่ เจ้าของร้านอาหารดาวมิชลิน!

คอมเมนต์:

จากคนที่ "เขียนหนังสือไม่ได้" สู่ เจ้าของร้านอาหารไทยที่ทั่วโลกยกย่อง!

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปที่เกี่ยวข้องได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

        หลังจากมิชลินไกด์ ประกาศร้านที่ติดโผ และได้รับดาวมิชลินไป กลับมีหนึ่งร้านที่เข้ามาซิวดาวของมิชลินไปได้แบบพลิกโผสุดๆ! 

        คือ ร้านสวนทิพย์ ร้านอาหาร ย่านปากเกร็ด ที่เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 หรือกว่า 33 ปี ถือเป็นดาวแรก และดาวเดียวของฝั่ง จ.นนทบุรี ผ่านทางเชฟรุ่นเก๋าอย่าง คุณป้าบานเย็น เรืองสันเทียะ อายุ 62 ปี 

 

Sponsored Ad

 

.


        ร้านอาหารสวนทิพย์ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่แวดล้อมด้วยหมู่แมกไม้ อีกทั้งยังตั้งติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ได้บรรยากาศที่ร่มรื่น และเป็นธรรมชาติมาก มีสวนดอกไม้ และสระบัว เป็นจุดเด่นอยู่กลางร้าน เติมแต่งสีสันให้เป็นภาพที่ชวนมองแก่ผู้มาเยือนเป็นอย่างมาก


 

Sponsored Ad

 

.


        เรื่องราวชีวิตของ คุณป้าบานเย็น ซึ่งเปิดเผยว่า ชีวิตในวัยเด็กนั้นครอบครัวค่อนข้างยากลำบาก เป็นลูกคนที่ 3 จาก 9 คน ต้องรับจ้างแบกมันสำปะหลังตั้งแต่อายุ 13 ปี ค่าจ้างวันละประมาณ 10 บาท ก่อนที่จะไปเติบโตในอ.ลำปลายมาศ จ.นครราชสีมา ต้องหารายได้ดูแลครอบครัวด้วย พออายุ 15 ปี ก็ย้ายเข้ามาที่กรุงเทพฯ มาอยู่กับครอบครัวคนจีน ที่เยาวราช รายได้เดือนละ 800 บาท 

        "คือตอนนั้นคิดแค่ว่าอยากหาเงินหาทองให้พ่อแม่ เพราะยอมรับว่ายากลำบากมาก อยู่ที่บ้านก็แค่รับจ้างแบกมันเท่านั้น..."

 

Sponsored Ad

 

        "ตอนที่มากรุงเทพฯ ก็ทำงานเป็นแม่บ้านคอยทำความสะอาดบ้าน ซึ่งตอนอยู่กับพ่อแม่ก็ทำเป็นประจำอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่พอเจ้านายบอกให้ ‘ทำอาหาร เราก็ตกใจเลยทีนี้ เพราะ ‘เป็นคนทำอาหารไม่เป็นเลย’ และก็รู้ว่าการทำกับข้าวไม่ใช่เรื่องง่าย จากนั้นเจ้านายก็เริ่มเรียกเราให้เข้าครัวพร้อมกับคอยสอนอย่างใกล้ชิด ว่า แกงต้องทำแบบนี้ ต้องปรุงแบบนี้ ซึ่งครอบครัวคนจีนก็จะเน้นทำอาหารจีนเป็นหลัก เช่น ขาหมู หรือพะโล้

        เราก็ค่อยๆ เรียนรู้มาเรื่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อย มีครั้งหนึ่งที่ไปเห็นคุณยายคนหนึ่งขายก๋วยเตี๋ยวหลอด เราก็สังเกต และคิดว่าอยากลองทำดู ซึ่งตอนนั้นเจ้าของบ้านให้เงินไว้ 2 บาท จึงตัดสินใจเอาเงินที่มีไปซื้อมาชิม เราก็จำรสชาติ ก่อนทำเอาไปให้ลูกชายเจ้าของบ้านกิน เขาก็ชมว่าอร่อย ก็คือตนเป็นคนชอบชิม และจำเอามาทำเองเสมอ"

 

Sponsored Ad

 

.

        คุณป้าบานเย็น เปิดเผยต่อว่า ต่อมาก็ย้ายไปทำงานกับครอบครัวคนไทย ซึ่งก็จะค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการทำอาหาร เราก็เรียนรู้แบบครูพักลักจำ จนย้ายมาอยู่กับครอบครัวหนึ่ง ซึ่งหลานของเจ้านายก็ชวนเรามาเป็นแม่ครัวที่ร้านอาหารสวนทิพย์แห่งนี้

        สิ่งสำคัญที่ทำให้การทำอาหารของเราพัฒนามากที่สุดคือ การจดจำรสชาติอาหาร และคงคุณภาพของรสชาติให้ได้คงที่ที่สุด ป้าแม่ครัวคนอื่นๆ ก็คอยสอนอย่างใกล้ชิดด้วย

 

Sponsored Ad

 

        “เส้นทางของป้ากว่าที่จะมาถึงวันนี้ก็ไม่ได้โรยกลีบกุหลาบ เพราะ เรียนจบแค่ ป.4 ไม่มีความรู้อะไรเลย เขียนหนังสือไม่ค่อยได้ ใช้วิธีการจำเอาเกือบทั้งหมด จดบ้างแต่ก็จดแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ที่เขียนได้มั่นใจจริงๆ ก็มีแค่ชื่อตัวเอง เรื่องรสชาติอาหารก็จำอย่างเดียว ผ่านการชิมรสชาติอาหารจากคุณป้าหัวหน้าครัว ว่าอันนี้ขาดเค็ม หรือขาดหวาน นี่จึงเป็นจุดยืนของเรา คือ การชิม และจับรสชาติอาหารไว้ให้ได้มากที่สุด” เชฟเจ้าของรางวัลมิชลิน กล่าว

 

Sponsored Ad

 

        คุณป้าบานเย็น กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า ส่วนตัวคิดว่าการที่เราได้รับรางวัลแบบนี้ ก็เป็นเพราะสูตรอาหารที่ได้รับการสืบต่อมาจากโบราณ และร้านสวนทิพย์ก็ร่มรื่น และบรรยากาศดี หลังจากนี้ก็มีความกังวลว่าจะไม่มีใครสืบทอดสูตรอาหาร เพราะ ทุกคนบอกว่าทำยาก และก็ไม่ได้รสชาติเดียวกับที่เราทำ

        “หลังจากที่ได้รับรางวัลนี้ ลูกค้าก็เข้ามามากขึ้นจนรับแทบไม่ไหว ป้าต้องเข้าครัวตั้งแต่ ตี 5 จนถึง 3 ทุ่มแทบทุกวัน แต่บอกกับตัวเองว่า ไหนๆ ก็ ไหนๆ แล้ว สู้อีกสักนิดให้ลูกค้าได้กินของอร่อย จนไม่คิดถึงความเหนื่อยที่ต้องทำ ต่อไปเราก็จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ไม่ให้คนผิดหวัง” คุณป้าบานเย็นกล่าว

Sponsored Ad

.

        หากใครอยากมาลองชิมฝีมือเชฟมิชลิน ก็สามารถมาได้ที่ ร้านสวนทิพย์ ตั้งอยู่ที่ 17/9 หมู่7 9 สุขาประชาสรรค์ 2 ซอย 76 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

        ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 21.00 น. ติดต่อจองโต๊ะได้ที่ เบอร์ 02-583-3748


ชมคลิป...

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ข้อมูลและภาพจาก khaosod

บทความที่คุณอาจสนใจ