"แมวปลอมตัว" เป็นหลานรัก 7 ปี" แต่คุณยายออกมาโต้กลับว่า "ก็ฉันเต็มใจเอง"
คอมเมนต์:
“การเคียงข้าง” คือความรักที่แท้จริงที่สุด ต่อให้ส่งของขวัญ เงินทองมากมาย ก็ไม่สู้กลับบ้านไปเคียงข้างคนที่คุณรัก พ่อแม่ ครอบครัว เหมือนเช่น “แมวสีส้ม” ตัวนี้ที่อยู่เคียงข้างคุณยายให้ความอบอุ่นเธอตลอดทุกวัน
ลูกสาวคุณยายไปทำงานต่างถิ่น 2 ปีจะกลับมาสัก 2-3 วัน ทำให้คุณยายเหงาและรู้สึกเดียวดายมาก แต่ยังดีที่คุณยายยังมีเพื่อนแก้เหงานั้นคือ “แมวสีส้ม” ตัวนี้นี่เอง ทำให้บรรยากาศบ้านหลังนี้มีชีวิตชีวามากขึ้น เพื่อเป็นการแก้เหงาคุณยายจึงได้เก็บภาพที่ระลึกในแต่ละวันไว้ พยายามทำตนเองให้ยุ่งอยู่ตลอดเวลา
Sponsored Ad
การพบเจอในครั้งนี้เกิดขึ้นในระหว่างทางที่คุณยายเดินกลับจากการส่งลูกสาวนั่งรถไฟกลับ แต่ตอนเดินกลับบ้านคุณยายก็พบแมวสีส้มตัวน้อยที่ยืนอยู่ข้างทาง พวกมันเนื้อตัวสกปรก มอมแมม ผอมแห้ง แทบไม่มีแรงเดินเลย ไม่รู้ว่าพวกมันโดนทอดทิ้งไปนานแค่ไหนแล้ว จะมีอะไรกินหรือเปล่าเนี้ย? หากไม่มีเจ้าของในฤดูหนาวคงหนาวน่าดู
Sponsored Ad
คุณยายจึงเดินกลับบ้านไปเอาปลาแห้งมาให้พวกมันกิน ในตอนแรกแมวสีส้มตัวเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความระมัดระวังหวาดระแวง แต่เมื่อมันสัมผัสได้ว่าคุณยายเป็นมิตรกับมัน มันจึงค่อยๆเดินเข้าไปหา และกินปลาแห้งที่คุณยายนำมาให้จนหมด
ในตอนแรกคุณยายคิดว่ารุ่งขึ้นแมวสีส้มคงหนีหายไปแล้วแน่ๆ แต่ปรากฏว่าวันที่ 2,3,4 มันก็ยังคงอยู่ที่เดิม ท่าทางของมันดูมีเรี่ยวแรงมากขึ้นกว่าวันก่อน และมันเริ่มเชื่อใจคุณยายมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมันได้ยินเสียงฝีเท้าของคุณยายก็จะรีบวิ่งออกมาหาอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีท่าทีหวาดระแวงเลย
Sponsored Ad
เมื่อคุณยายเห็นแมวน้อยที่ไร้ที่พึ่งพิง ก็ทำให้นึกถึงตนเองที่ก็ต้องโดดเดี่ยวเดียวดายเช่นกัน หรือนี่จะเป็นการพบเจอที่ฟ้ากำหนดไว้แล้ว เป็นพรหมลิขิต
Sponsored Ad
คุณยายจึงอุ้มแมวสีส้มตัวนี้กลับบ้านไปเลี้ยงต่อเปรียบมันเหมือน “หลานรัก” แมวจรจัดสีส้มตัวนี้ก็ดูกล้ามาก ไม่คิดกลัวคุณยายเลย มันนิสัยแสนซน น่ารัก ขี้เล่น และมักทำให้คุณยายอารมณ์ดี ยิ้มจนหุบไม่ลง คุณยายมักบ่นให้มันฟัง แต่บางทีก็เอาอกเอาใจมันมาก
หลังจากที่คุณยายมีเจ้าแมวสีส้ม คุณยายใช้ความรักที่มีต่อหลานมอบให้แมวตัวนี้จนหมด แมวตัวนี้น่าอิจฉามาก ได้สวมใส่เสื้อผ้า หมวกที่น่ารัก อบอุ่นมาก
Sponsored Ad
"มันคือหลานยายจริงๆนะ ยายรู้สึกอย่างนั้น"
.
.
แถมยังมีรถเข็นพิเศษให้ได้นั่ง แทบไม่ต้องเดินกันเลยทีเดียว ทั้งสองกอดกันตลอดเวลา ขนาดกินข้าวมันยังขี้อ้อนมาก “ถ้าไม่ป้อนก็จะไม่กิน” ประมาณนั้นเลยนะ
Sponsored Ad
ไม่นานแมวสีส้มตัวนี้ก็อ้วนมาก จากเดิมที่ผอมแห้ง เพราะคุณยายเลี้ยงดีเกินไปแท้ๆ
หลายปีที่ผ่านมาแม้ไม่มีลูกหลานเคียงข้าง แต่ก็ยังมีแมวสีส้มที่คอยเคียงข้าง ความรักของคุณยายที่ไม่สามารถมอบหรือแสดงให้ลูกหลานได้ เธอจึงมอบความรักให้กับแมวสีส้มตัวนี้ทั้งหมด ทำให้มันได้รับความรักไปอย่างเต็มๆ
Sponsored Ad
ปัจจุบันผู้คนมากมายต้องยุ่งกับการทำงานจนไม่มีเวลากลับบ้าน บางครอบครัวกลับบ้านไปหาพ่อแม่ปีละครั้งเท่านั้น ครั้งหนึ่งก็แค่ 2-3 วันเท่านั้น แล้วคุณล่ะ?กลับบ้านไปหาพ่อแม่บ่อยแค่ไหน? ปีละกี่ครั้ง? ยิ่งคนที่ทำงานต่างประเทศยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
มีคนเคยบอกว่า มีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งที่จะเดินทางจากเหนือลงภาคกลางเกือบทุกอาทิตย์เพื่อไปใช้เวลากับแม่ที่อยู่เพียงลำพัง
ยังมีเด็กอีกประเภทเมื่อไม่มีเงินก็จะกลับมาหาพ่อแม่เพื่อขอเงิน ทั้งที่ตนเองก็โตบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ยังเหมือนเด็กที่มาขอเงินพ่อแม่ ยิ่งเป็นเทศกาลสำคัญเช่นวันพ่อ วันแม่ ที่จริงพวกเขาไม่ต้องการเงิน เค้ก หรือของขวัญเลย พวกเขาหวังเพียงอย่างเดียวคือ เห็นหน้าลูกและเห็นลูกมีความสุข การงานมั่นคง มันมีค่ามากกว่าเงินทองของขวัญ
.
.
.
.
.
.
ฉลองวันคริสมาสต์ด้วยกันนะ
.
.
เพื่อนบ้านมาขอเล่นกับมันด้วยทุกวัน เพราะมันน่ารักนิ
.
เนี้ยแหละหลานของฉันเองที่อยู่เคียงข้างฉันมาตลอด 7 ปี
หลานคนนี้สำคัญที่สุดในชีวิตเลย
ตอนเดินเล่นกันเห็นดอกไม้มีส้มเหมือนตัวมันก็เลยก็เลยขอเก็บภาพมันกับดอกไม้หน่อยนะ
ยามนอนก็มีมันเนี้ยแหละที่อยู่เป็นเพื่อน
บางทีมันก็นอนเป็นเพื่อนซะเลย
รักมากมายนะตัวนี้
.
.
และเมื่อเรากตัญญูเมื่อลูกๆเห็นก็มีความคิดว่าโตมาอยากจะกตัญญูเหมือนพ่อแม่ ฉะนั้นให้เราหาเวลามาเคียงข้างพ่อแม่ของเราบ้างเถอะนะ หากใครที่โตมากับ ปู่ย่า ตายายก็ควรหาเวลากลับไปหาท่านบ้างนะ
ที่มา :funny
แปลและเรียบเรียงโดย โลกของโฮ่ง