จากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้อะไรหลาย ๆ อย่างที่คาดว่าจะไม่มีปัญหาอย่างเรื่องลอตเตอรี่ กลับได้รับผลกระทบเช่นกัน จนทำให้ชาวบ้านในอำเภอวังสะพุง ต้องตกอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถไปจำหน่ายลอตเตอรี่ได้ 2-3 งวดแล้วและอนาคต ยังไม่ทราบเลยว่าปัญหาในเรื่องลอตเตอรี่นี้จะเกิดขึ้นกับชาวจังหวัดเลยอีกนานเท่าไร

        ที่จังหวัดเลย เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีผู้ขายสลากกินแบ่งรายย่อยมากที่สุดของประเทศไทย และประสบปัญหาการจัดสรรสลากกินแบ่งที่ไม่ลงตัว 

        จนต้องมีการจำหน่ายสลากเป็นทอด ๆ ที่เรียกว่า ยี่ปั่ว ซาปั๋วเกิดขึ้นและเกิดการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ เป็นทอด ๆ จนเกิดปัญหาต่าง ๆ นานา และมีการเรียกร้องต่าง ๆ ในการขอสลากกินแบ่งรัฐบาลในปี 2558 ซึ่งขณะนั้น นายปรีชา การมงคล ดำรงตำแหน่งเป็นประธานผู้ค้าสลากรายย่อยจังหวัดเลย ซึ่งรับบทบาทการเรียกร้องต่าง ๆ

        จากนั้น 5 ปีที่ผ่านมานายปรีชา ได้ผันตัวเองมาเป็นเกษตรเต็มตัวที่ใช้ศาสตร์พระราชา ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ ชีวิตในปัจจุบันนายปรีชาและลูกเมียไม่ต้องหันไปจำหน่ายลอตเตอรี่อีก ซึ่งเรื่องลอตเตอรี่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 

        ปัจจุบันนายปรีชา หันมาทำเกษตรแบบผสมผสานได้ 5 ปีแล้วโดยทำด้วยกัน 4 คนในครอบครัวคือ พ่อ แม่ และลูก 2 คน ดูแลไร่สวนผสมผสานกว่า 17 ไร่ 3 งาน 80 ตารางวาไร่ ปลูก แตงร้าน บวบเหลี่ยม บวบหอม บวบลาย มันเทศญี่ปุ่น เสาวรส หน่อไม้ผรั่ง ถั่วฝักยาว น้ำเต้า มะเขือ พริก มะเขือเทศ ข้าวโพด ขนุน ยางพารา เลี้ยง เป็ดไข่ เป็ดเทศ ไก่พื้นเมือง เลี้ยงหนูนา โรงปุ๋ยหมัก

        ทุกวันนี้ทุก ๆ เช้านายปรีชา และครอบครัวจะนำพืชผลทางการเกษตรจากสวนไปจำหน่ายในหมู่บ้านโคกมน บ้านเมตตา บ้านกกเตน บ้านโนนกกหาด และบ้านโคกแฝก เช้าตื่นมา ทำให้นายปรีชาและครอบครัวมีรายได้ตกวันละ 1,000-2,000 บาท ไม่ต้องเดินทางไปไกล อยู่บ้าน สร้างครอบครัว สร้างเศรษฐกิจด้วยตัวเอง

        จนปัจจุบันนายปรีชา พัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพ สินค้าการเกษตร (ศภก.) อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ที่มีเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาเรียนรู้ จากนายปรีชา การมงคล จนปัจจุบันมีความพอใจและมีความสุขกับการดำรงชีวิต ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

        นายปรีชา กล่าวว่า ตอนนี้ตนอยากฝากไปยังพี่น้องผู้ค้าสลากรายย่อยให้คิดใหม่ ทบทวนใหม่ เพราะว่าทุกคนนั้นมีที่ดินที่ทำกินอยู่แล้ว จึงอยากให้ลองเคลียร์สถานที่คนละ 1-2 ไร่ด้วยกันหันมาทำอย่างที่ตนทำอยู่ในขณะนี้ ส่วนบางคนที่ไม่ถนัดเรื่องของการทำพืชผล การผลิตก็สามารถไปเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงวัว เลี้ยงแพะได้ อย่าไปคิดว่าทำแล้วไม่มีที่ขายเพราะทุกวันนี้มันสมัยใหม่แล้ว

        “หากใครอยากเลี้ยงสัตว์ก็ไปขอจดทะเบียนลงรวมกลุ่มกันแล้วก็ทำเป็นแปลงใหญ่เลี้ยงสัตว์ เนื่องจากตอนนี้ถ้าร่วมกลุ่มกันทำแปลงใหญ่แล้วกระทรวงพาณิชย์เขาจะพาไปอบรมและก็จะมีที่ขายไปเอง และมีใบรับรองด้วย ดังนั้น ผมจึงอยากให้ผู้ค้าสลาก หากจะขายสลากก็ขาย แต่อยากให้มองถึงภาพความจริง ปัญหาที่เกิดในขณะนี้ทำให้เราไม่มีรายได้ ทุกคนบอกว่าลำบาก แต่ถ้าเรามีความคิดใหม่ลองเคลียร์ที่ดินของตัวเองที่มีอยู่จาก 10 ไร่ 20 ไร่แบ่งมาซัก 2-3 ไร่แล้วก็มาทำแบบอย่างที่ผมทำ วางแผนไว้ถึงเวลาก็ไปขายสลากกลับมาก็มาดูแลสวน ผมคิดว่าประมาณ 1-2 ปี พี่น้องส่วนมากที่คิดแบบผมอาจจะเลิกขายสลากเหมือนผม เพราะว่ามันมีรายได้ทุกวัน” นายปรีชา กล่าว

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก บ้านเมือง, ให้ความรู้