เมื่อเราได้รับโอกาสมาแล้ว ก็ควรจะมอบโอกาสนั้นให้ผู้อื่นบ้าง เหมือนเช่นเด็กชายคนนี้ ที่คิดการใหญ่ถึงขั้นก่อตั้งโรงเรียนของตัวเอง เพื่อให้เด็กคนอื่นได้เรียนหนังสือ แบบเดียวกับที่เขาได้เรียน ด้วยเหตุผลง่ายๆ  "การให้คือการทำความดีที่ยิ่งใหญ่"

        นิกาโนร์ กินเตโรส (Nicanor Quinteros) เด็กชายวัย 12 ปี เป็นเด็กปกติทั่วไป เขาอาศัยอยู่กับย่าของเขา ราโมน่า ไปโรงเรียนทุกวัน ชอบนมและคุกกี้มาก เขาเป็นเพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่ง แต่ที่ทำให้เขาแตกต่างจากเด็กคนอื่นคือเขามี "โรงเรียนของตัวเองที่ต้องคอยบริหาร" โดยเขาเป็นคนก่อตั้งเองกับมือ! ด้วยเป้าหมายที่ฟังแล้วก็ให้อบอุ่นหัวใจอย่างมาก

        นิกาโนร์เผยว่าเขาอยากให้เด็กคนอื่นๆ ได้เรียนหนังสือ หาความรู้ใส่ตัวเช่นเขา และได้มาถกเถียงแลกเปลี่ยนความรู้ด้วยกันในชุมชนเล็กๆ

        ความคิดนี้เริ่มมาตั้งแต่นิกาโนร์อายุได้ 9 ขวบ เขาเปรยกับย่าว่าอยากมีโรงเรียนเป็นของตัวเองอยู่ข้างบ้าน เพราะมีเด็กๆ ในละแวกบ้านเขาหลายคนไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ เนื่องจากพ่อแม่ขัดสนเรื่องค่าพาหนะเดินทางไปโรงเรียนที่ไกลจากบ้านหลายกิโลเมตร แม้กระทั่งรองเท้าดีๆ ไว้สำหรับเดินไปโรงเรียนยังไม่มีเลย แถมเด็กอีกหลายคนก็กลายเป็นคน ไ ร้ บ้ า น ไปโดยที่พวกเขาไม่ได้ร้องขอเลย ซึ่งย่าของเขารู้สึกถูกใจกับไอเดียนี้ของนิกาโนร์มาก จึงหาทางทำให้มันเป็นจริงขึ้นมา

.

        ย่าของนิกาโนร์จึงเกณฑ์คนในหมู่บ้านให้มาช่วยกันสานฝันของหนูน้อยให้เป็นจริง โดยใช้พื้นที่หลังบ้านของเขาในลาส เพียดริดาส ในซาน ฮวน อาร์เจนตินา โดยใช้วัสดุก่อสร้างง่ายๆ เช่นพรม ไม้อัดทำเป็นห้องเรียน กล่องลังผลไม้เป็นเก้าอี้ให้นักเรียน และสมุดโน้ตรีไซเคิลเพื่อให้นักเรียนใช้จดและทำการบ้าน จน 4 ปีผ่านไป และด้วยความช่วยเหลือจากผู้คนในชุมชนที่แวะเวียนกันมาเปลี่ยนมือ นิกาโนร์จึงมีโรงเรียนเป็นของตัวเองอยู่ที่สนามหลังบ้าน

.

        โดยโรงเรียนของนิกาโนร์มีทั้งหมด 3 ห้องเรียน ตู้ล็อกเกอร์ กระดานดำ ห้องสมุดขนาดย่อม แถมมีกระดิ่งพักเที่ยง ส่วนครูผู้สอนของโรงเรียนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนร่วมชั้นของนิกาโนร์เอง ส่วนตัวเขาทำหน้าที่เป็นครูใหญ่และมีออฟฟิศเป็นของตัวเอง ดูเผินๆ อาจจะหลงนึกไปกว่า นี่ทำขึ้นมาเอาสนุกใช่ไหม? คำตอบคือไม่! เพราะทั้งครูและนักเรียนของโรงเรียนนี้ต่างอุทิศและทุ่มเทให้กับโรงเรียนนี้อย่างมาก เด็กนักเรียนจะเคาะประตูห้องครูใหญ่นิกาโนร์ทุกครั้งเพื่อขออนุญาตเข้าเรียนเลยทีเดียว

        โรงเรียนของนิกาโนร์มีนักเรียนทั้งหมด 36 คน การเรียนการสอนเป็นไปอย่างเรียบง่าย เหมือนเพื่อนสอนเพื่อนผสมกับระบบของโรงเรียนจริงๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือเด็กๆ มีความสุขมาก บางคนก็ทำผลการเรียนได้ดีขึ้จนสอบเลื่อนชั้นได้สบายๆ แต่กระนั้นตัวนิกาโนร์เองก็ยังต้องเข้าเรียนตามปกติ นั่นทำให้เขาต้องปั่นจักรยานกว่า 4 กิโลเมตรเพื่อไปเรียน แล้วปั่นกลับมาเปิดโรงเรียนของตัวเองเพื่อสอนคนอื่นๆ เขาพยายามช่วยเหลือเด็กในชุมชนให้ได้มากที่สุด ถึงขั้นเปิดสอนภาคค่ำสำหรับเด็กที่ไปโรงเรียนตามเวลาปกติไม่ได้เลยทีเดียว นอกจากนี้เขายังเก็บออมค่าขนมของตัวเอง เพื่อมาซื้อนมและคุกกี้แจกให้นักเรียนในความดูแลของเขา

        ปัจจุบัน นิกาโนร์ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก และทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่า การให้คือการทำความดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ขอปรบมือดังๆ ให้หนุ่มน้อยนิกาโนร์ดังๆ เลยค่ะ...

ข้อมูลและภาพจาก brightside, messicloud