"พระชลธาร ถาวโร กาญจนบุตร" หัวหน้าสำนักสงฆ์ป่าไร่ยาวและหัวหน้าสำนักสงฆ์ถ้ำเขาเพ-ลา เปิดเผยถึงกรณีชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลประสงค์ ได้ร่วมกันลงขันสมทบเงินเป็นค่าน้ำมันเครื่องจักรกลหนัก เพื่อปรับปรุงถนน หลังจากพังเสียหายอย่างหนักมานานกว่า 5 ปี ไร้หน่วยงานลงมาดูแลปรับปรุง 

        ตนจึงได้ประสาน ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 และผู้ประกอบการ เพื่อขอการสนับสนุนเครื่องจักรหนัก มาดำเนินการปรับปรุงเส้นทาง ซึ่งการดำเนินการได้มีการสนับสนุนน้ำมันจากผู้นำชุมชนนักการเมืองท้องถิ่นตลอดจนประชาชนในพื้นที่ ที่ต้องการใช้ถนนที่ดีขึ้น เพื่อนำพืชผลการเกษตรออกสู่ตลาดและบุตรหลานเดินทางไปโรงเรียนจะได้สะดวกขึ้น

        แต่ล่าสุด มีเจ้าหน้าที่ ปลัด อบต.ประสงค์ ได้โพสต์ในไลน์กลุ่มปกครองของอำเภอท่าชนะว่า “แจ้งสมาชิกทุกท่านนะคะ ตอนนี้ อบต. กำลังทำประเมินราคาค่าซ่อมแซมถนนที่ประสบอุทกภัย เพื่อของบจังหวัด ขอสมาชิกช่วยประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทราบด้วย ไม่ต้องการให้ใครไปเรี่ยไรชาวบ้าน เพราะรัฐบาลมีงบ 

        ที่ผ่านมาถ้ามีภัยพิบัติเราก็เข้าให้ความช่วยเหลือตลอด โดยผู้นำแต่ละหมู่ก็ได้ร่วมแก้ปัญหาเพื่อให้ชาวบ้านอยู่ดี อาจช้าไปบ้างในเรื่องงบประมาณแต่ที่เป็นปัญหาเราก็เข้าซ่อมแซมปรับปรุงตลอด การเข้าไปเรี่ยไรเงินชาวบ้านทั้งที่ภาครัฐมีงบประมาณในการช่วยเหลือถือเป็นความผิด ที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ตอนนี้เดือดร้อนถึงผู้ว่าแล้ว อย่าให้ใครเที่ยวไปยุยงปลุกบั่น สร้างความเสื่อมเสียและเสียหายให้ตำบล บางสายกำลังประกาศหาผู้รับจ้างอยู่ด้วยซ้ำ”

        ขณะเดียวกัน พระชลธาร ถาวโร กาญจนบุตร หัวหน้าสำนักสงฆ์ป่าไร่ยาวและหัวหน้าสำนักสงฆ์ถ้ำเขาเพ-ลา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า เพ-ลา นี้ ว่า ที่ได้รับการปรุงปรุงถนนหลายหมู่บ้าน และไม่เกี่ยวการถูกอุทกภัยปาบึก เพราะไม่โดนใดๆทั้งสิ้น และไม่มีการเรี่ยไรใดๆ ทั้งสิ้น จะมีแต่ชาวบ้านที่ลำบากมาหลายปีแล้วทนไม่ไหว เลยลงขันกันออกค่าน้ำมัน ออกเงินกันเอง 

        และให้ผู้นำชาวบ้านประสานมาที่อาตมาเพื่อขอสนับสนุนเครื่องจักรมาช่วยเหลือ ไม่ใช่โดนอุทกกภัยรึมีการเรี่ยไรตามที่ปลัดอบต.ประสงค์ แจ้งทางผู้นำบิดเบือนข้อมูล ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งการที่ชาวบ้านได้รับความสะดวกสบาย น่าจะยินดีกับชาวบ้านถึงจะถูกต้อง แต่นี่ชาวบ้านดีใจแต่ทำไมท่านปลัดถึงโกรธได้  

        ในขณะที่ นส.เอมอร เรืองพรหม และนายบรรจบ หล่อวงศ์ ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 16 บ้านไร่ยาวได้ยืนยันว่าเส้นทางการจราจรมีความลำบากมาก เนื่องจากน้ำฝนได้กัดเซาะผิวการจราจรเสียหายมาหลายปี รถยนต์ผ่านไปมาด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะการบรรทุกพืชผลการเกษตร เช่น น้ำยางที่ชาวบ้านใช้รถจักรยานยนต์บรรทุกได้ประสบอุบัติเหตุบ่อยๆครั้ง จึงวอนผู้ว่าราชการจังหวัดอย่าฟังแต่เจ้าหน้าที่รายงาน ขอให้ท่านสละเวลาลงมาดูพื้นที่จริงบ้างว่าชาวบ้านลำบากแค่ไหน ในแต่ละปีที่หมดฤดูฝนชาวบ้านได้ลงขันปรับปรุงถนนกันเอง ทางภาครัฐไม่เคยดูแล เมื่อสอบถามก็หน่วยงานที่เกี่ยงข้องก็บอกไม่มีงบ

.

ข้อมูลและภาพจาก one31