เปิดตำราดู "แมวมงคล" ทั้ง 17 ชนิด เลี้ยงไว้ช่วยเสริมดวง เสริมโชคลาภ ปัดเป่าแคล้วคลาดภัยฯ !

คอมเมนต์:

เหตุใดถึงต้องเชิญ แมวไทย "วิเชียรมาศ" มาในใช้พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร

        แมว ถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงคู่บ้านคู่เมืองของมนุษย์มายาวนานหลายพันปี แมวสายพันธุ์ไทยก็เป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นิยมเลี้ยงกันโดยทั่วไปในหลายๆ บ้าน หลายๆ ครอบครัว

        ตามความเชื่อของคนไทยเชื่อกันว่าการเลี้ยงแมวจะทำให้ชีวิตดียิ่งขึ้น ยิ่งเป็นแมวที่มีลักษณะตรงตามตำราแมวมงคลก็จะเชื่อกันไปอีกว่า จะสามารถช่วยเกื้อหนุนให้ผู้เลี้ยงมีความเจริญยิ่งขึ้น

 

Sponsored Ad

 

        เรามาดูกันดีกว่าว่าแมวทั้ง 17 ชนิดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแมวมงคลประกอบด้วยแมวลักษณะใดบ้าง อ้างอิงข้อมูลจากตำราดูลักษณะแมวของวัดอนงคาราม

 

Sponsored Ad

 

1. แมวนิลรัตน์

        แมวขนสีดำทั้งตัว ฟัน นัยน์ตา เล็บ ลิ้น ล้วนแต่เป็นสีดำ หางเรียวยาวเสมอหัว

2. แมววิลาศ

 

Sponsored Ad

 

        มีแถบสีขาวคาดตั้งแต่ท้อง-อก-หน้า ตลอดจนถึงกลางหลัง เท้าทั้งสี่มีถุงสีขาวรอง ดวงตาคู่สีเขียว

3. แมวศุภลักษณ์

 

Sponsored Ad

 

        มีสีคล้ายทองแดง ดวงตาออกสีเหลืองประกายอำพัน เลี้ยงเอาไว้จะทำให้แคล้วคลาด สิ่งร้ายๆ ไม่สามารถกล้ำกรายได้

4. แมวเก้าแต้ม

 

Sponsored Ad

 

        แมวสีขาว มีแต้มสีดำทั้ง 9 จุด คือหัว คอ โคนขาหน้า และโคนขาหลังทั้ง 2 ข้าง ไหล่ 2 ข้างและโคนหาง

5. แมวมาเลศหรือดอกเลา

 

Sponsored Ad

 

        สีขนดอกเลา (เทาออกเงิน) ทั้งตัว ดวงตาเป็นสีเขียวประกายหรือเหลืองอำพัน หางยาวเรียวแหลม

6. แมวแซมเศวต

Sponsored Ad

        แมวขนสีดำแซมขาว ขนเรียบและบาง ลำตัวปราดเปรียวเรียวยาว ดวงตามีแสงเหมือนหิ่งห้อย

7. แมวรัตนกัมพล

        ขนสีขาวมุกเหมือนเปลือกหอยสังข์ มีแถบสีดำคาดเอาไว้รอบอก นัยน์ตาสีทอง

8. แมววิเชียรมาส

        ขนสีขาวมีขนสีดำหรือน้ำตาลแต้มตรงปาก เท้าทั้ง 4 ข้าง หาง และหูทั้ง 2 ข้าง นัยน์ตาสีฟ้า

9. แมวนิลจักร

        สีขนทั้งตัวสีดำสนิท มีแถบขนสีขาวคาดไว้รอบคอ

10. แมวมุลิลา

        มีขนสีดำขลับเป็นมันทั้งตัว ตรงใบหูทั้งสองข้างมีสีขาว นัยน์ตาสีเหลืองดอกเบญจมาศ

11. แมวกรอบแว่นหรืออานม้า

        แมวขนสีขาวมีขนสำดำขึ้นแซมรอบดวงตาคล้ายกรอบแว่น กลางหลังมีสีดำแต้มเหมือนอานม้า

12. แมวปัดเศวตหรือปัดตลอด

        ขนสีดำเป็นมัน มีแถบสีขาวยาวตั้งแต่ปลายจมูกจนถึงปลายหาง ดวงตาสีเหลืองประกายเหมือนเม็ดพลอย

13. แมวกระจอก

        ขนสั้นสีดำ มีขนสีขาวขึ้นรอบจมูกและปาก ตาสีเหลืองอมเขียว ลำตัวกลม

14. แมวสิงหเสพย์

        ขนสีดำสั้นทั้งตัว มีขนสีขาวรอบจมูกและลำคอ นัยน์ตาสีเหลืองอมเขียว

15. แมวการเวก

        มีขนสีดำทั้งตัว ปลายมูกมีจุดแต้มสีขาว นัยน์ตาทั้งสองข้างสีเหลืองอำพัน

16. แมวจตุบท

        แมวสีดำ ปลายเท้าทั้ง 4 ข้างยาวจนถึงข้อพับเป็นสีขาว นัยย์ตาสีเหลืองดอกโสน

17. แมวโกญจา

        ขนสั้นสีดำทั้งตัว นัยน์ตาสีเหลืองอมเขียว ปากและหางเรียวแหลม

        จากตำรากล่าวไว้ว่า แมวทั้ง 17 ชนิดนี้เป็นแมวมงคล หากเสาะหาแล้วเลี้ยงเอาไว้จะช่วยให้เจ้าของเจริญๆ ยิ่งขึ้น จะอุดมไปด้วยยศถา ทรัพย์สิน หากแมวเสียชีวิตไปก็สามารถเก็บอัฐิไว้บูชาได้ด้วย

        ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกช่วงค่ำเมื่อวันที่ 4 มีการประกอบพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร ซึ่งเป็นเสมือนกับการขึ้นบ้านใหม่ ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ข้าราชบริพารฝ่ายหน้าได้เชิญเครื่องราชูปโภคและสิ่งมงคล รวมถึงสัตว์อย่างวิฬาร์หรือแมว และไก่ขาว เข้าพิธีด้วย

        แมวถือเป็นสัตว์ที่นำโชคลาภ ความร่มเย็นเป็นสุข เชื่อว่าสามารถขับไล่ภูตผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายเพราะสามารถมองเห็นในเวลากลางคืน ความเชื่อที่ว่าแมวมีเก้าชีวิต สื่อถึงความยั่งยืนสถาพรและเป็นอมตะ

        สำหรับในรัชกาลปัจจุบัน แมวที่ใช้ในการเฉลิมพระราชมณเฑียรเป็นแมวไทยวิเชียรมาศ ซึ่งเป็นแมวมงคลตามตำรา สีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีน้ำตาลไหม้ 9 แห่งทั่วตัว ดวงตาสีฟ้าสดใส เป็นสายพันธุ์แมวไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก

        ส่วนไก่ขาวนั้นถือเป็นสัตว์เลี้ยงสารพัดประโยชน์ ทั้งสามารถบอกเวลาและออกไข่ ในความเชื่อของชาวจีนถือว่า ไก่ขาวสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้

        เครื่องราชูปโภค หรือเครื่องใช้ของพระมหากษัตริย์ อื่นยังมี ศิลาบด หรือหินบดยา หมายถึง ความหนักแน่น หรือความไม่มีโรค ,พันธุ์พืชมงคล หมายถึงการงอกเงย ,ฟักเขียว หมายถึง การอยู่เย็นเป็นสุข ,กุญแจทอง หมายถึง กรรมสิทธ์ความเป็นเจ้าของบ้าน และจั่นหมากทอง หมายถึง ความมั่งคั่ง

.

        ทั้งนี้ในการพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะบรรทมเหนือพระแท่นราชบรรจถรณ์ พระแท่นที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ประดิษฐานภายในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานองค์ตะวันออก สำหรับเป็นพระแท่นบรรทมเฉพาะพระมหากษัตริย์

ข้อมูลและภาพ จาก catdumb / bbcthailand

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ