"สาววัย 19" เล่าชีวิตรักหลัง "แต่งกับชายวัย 62 ปี" โดนเหน็บแนมทุกวัน จนแทบทนไม่ไหว !

คอมเมนต์:

"สาววัย 19" เล่าชีวิตรักหลัง "แต่งกับชายวัย 62 ปี" โดนเหน็บแนมทุกวัน จนแทบทนไม่ไหว !

    เพราะความรักไร้ซึ่งขอบเขต และนี่คือเรื่องราวชีวิตรักของสาววัย 19 ปีคนหนึ่งที่พบรักเข้ากับชาวสูงวัยอายุ 62 ปี ซึ่งแน่นอนว่าชีวิตรักของเธอไม่ได้ราบรื่นมากนักจากช่วงอายุที่แตกต่างกันมากถึง 43 ปี เพราะมีทั้งการถูกเหยียดและการที่ครอบครัวไม่ให้รับการยอมรับ..

 

    Samantha Simpson สาวน้อยวัย 19 ปีได้พบกับสามีวัยดึกที่มีชื่อย่อว่า JR ผ่านทางเพื่อนของเธอในขณะที่ตอนนั้นมีอายุได้เพียง 18 ปีเท่านั้น แล้วทั้งสองก็ตกหลุมรักกันอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาไม่กี่เดือน

 

Sponsored Ad

 

Samantha Simpson สาวน้อยผู้ออกมาเล่าเรื่องราวในชีวิต

    แต่ถึงแม้ว่าความรักที่ทั้งสองมีให้แก่กันจะเป็นความรักที่เกิดขึ้นจริงๆ และไม่มีการถูกบังคับใดๆ ทว่าก็ไม่วายที่จะถูกคนรอบข้างพูดจาเหน็บแนมสามีของเธอว่าเป็นพวก ‘คลั่งเด็ก’ อยู่เสมอ 

 

Sponsored Ad

 

     นอกจากนี้ ครอบครัวของฝ่ายหญิงก็ไม่สามารถรับความรักของเธอที่มีต่อชายวัยเกษียณคนนี้ได้ เพราะด้วยช่วงอายุที่ห่างกันราวลุงกับหลานเป็นอุปสรรคที่ขวางกั้น

    ทว่าด้วยความรักที่เกิดจากใจจริงๆ ทำให้ Samantha ตัดสินใจย้ายออกมาอยู่อพาร์ตเมนต์ด้วยตัวของเธอเองที่รัฐอาร์คันซอ ก่อนที่ JR จะย้ายมาอยู่กับเธอด้วย และเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมาทั้งคู่ก็ซื้อบ้านอยู่ด้วยกันที่รัฐแคนซัส

    พวกเขาได้เข้าพิธีวิวาห์กันเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2018 หลังจากที่รู้จักกันได้เพียงแค่ปีเดียว ซึ่งในตอนนี้ทั้งคู่ก็กำลังที่จะสร้างครอบครัวเป็นของตัวเองด้วยความพยายามที่จะมีทายาทตัวน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจ… 

 

Sponsored Ad

 

    สาวน้อย Samantha ที่ได้เผยว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ที่คบกับชายคนนี้ เธอได้รับการเหยียดหยามไม่เว้นแต่ละวัน โดยบางคนเรียกสามีของเธอว่าพวกลักเด็กบ้าง พวกคลั่งเด็กบ้าง และก็มีหลายคนคิดว่าเขาเป็นปู่ของเธอ…

    “ตอนที่เราออกไปข้างนอก เรามักจะถูกเข้าใจผิดกันว่าเป็นคู่ปู่กับหลาน เราโดนอย่างนั้นมาตลอดแล้วมันก็ทำให้ฉันไม่พอใจนัก แต่ที่แย่ยิ่งกว่าคือคนที่เรียก JR ว่าเป็นพวกรักเด็กหรือพวกคลั่งเด็กตอนที่เราจูงมือกันหรือหอมแก้มกันนี่แหละ”

 

Sponsored Ad

 

    “ไม่มีเลยสักครั้งที่เวลาเราออกไปข้างนอก แล้วผู้คนจะไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของเราน่ะ” 

    “เรามีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากพออยู่แล้วเวลาที่อยู่กับครอบครัวหรือว่าเพื่อนๆ ที่ไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของเราสองคน แต่ว่าเวลาที่มีคนแปลกหน้ามาทำกิริยาเช่นนี้ สำหรับเรามันก็กลายเป็นอะไรที่มากเกินกว่าจะรับไหว”

 

Sponsored Ad

 

    “พวกเราแค่อยากให้ผู้คนตระหนักว่าเรามีความสุขกันดีกับชีวิตแต่งงานและจริงจังกับความสัมพันธ์นี้ ผู้คนไม่ควรจะมาตัดสินเรานะ”  Samantha กล่าวถึงชีวิตของเธอ

    โดยนอกจากเล่าถึงชีวิตหลังแต่งงานแล้ว เธอยังเล่าถึงช่วงเวลาที่ได้พบกับ JR ด้วยว่าเธอตกหลุมรักเขาเพราะด้วยบุคลิกอันดีงามและความเป็นสุภาพบุรุษของเขา “ตอนที่ฉันได้พบกับ JR ฉันตกหลุมรักเขาโดยอัตโนมัติเลยในช่วงเวลาที่เขาแนะนำตัวเองและเอาเข้าจริงๆ เขาก็เป็นสุภาพบุรุษเอามากๆ” 

    “เขามีทักษะการพูดที่ยอดเยี่ยมในทุกครั้งที่เราเจอกัน และมากไปกว่านั้นคือเขามักจะแสดงออกได้ดีเสมอไม่ว่าจะเป็นตอนที่คุยโทรศัพท์หรือส่งข้อความหากัน เขามีสิ่งที่ฉันไม่เคยเจอในตัวผู้ชายคนก่อนๆ เลย”

 

Sponsored Ad

 

    “ฉันเคยเดทกับผู้ชายที่มีอายุไล่เลี่ยกันมาก่อน แต่ก็ได้รู้ว่าด้วยความที่เรายังไม่บรรลุนิติภาวะทั้งคู่ทำให้ไม่รู้วิธีที่จะปฏิบัติกับอีกฝ่าย แต่กับ JR มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขามีวุฒิภาวะและปฏิบัติกับฉันราวกับฉันเป็นราชินี”

    “ไม่มีอะไรที่ฉันต้องการจะเปลี่ยนไม่ว่าจะในตัวเขาหรือความสัมพันธ์ของเรา” Samantha กล่าวเสริม 

    ในปัจจุบันแม้ว่าจะมีคำเหยียดจากผู้คนมากมายถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่พวกเขาก็บอกจริงจังกับความสัมพันธ์นี้จริงๆ และกำลังจะมีลูกด้วยกันอยู่ “แม้ว่า JR จะเคยมีลูกมาแล้ว แต่เราก็อยากจะมีลูกของพวกเราด้วยกันและเริ่มสร้างครอบครัว ก็เราแต่งงานกันแล้ว บ้านก็มีแล้ว ทำไมเราจะไม่ทำสิ่งนี้กันล่ะ”

Sponsored Ad

 

     “ส่วนที่ฉันหวังเอาไว้ก็คือถ้าหากเรามีลูกกันขึ้นมาจริงๆ คำเหยียดหยามนี้ควรจะหยุดเสียที เราไม่อยากเลี้ยงลูกให้โตขึ้นมาในสังคมที่มีคำเหยียดหยามผู้เป็นพ่อเช่นที่ผ่านมา” “เราหวังว่าการแชร์เรื่องราวของเราจะทำให้ผู้คนตระหนักว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ตลกแต่อย่างใด” Samantha กล่าวทิ้งท้าย 

ข้อมูลและภาพจาก catdumb

บทความที่คุณอาจสนใจ