"ผมแต่งงานแล้ว แต่ไปเจอผู้หญิงอีกคนที่ผมรักมากกว่า จะทำอย่างไรดี" หลวงพ่อกลับให้ไปขอหญิงนั้นแต่งงาน!

คอมเมนต์:

เขาถามหลวงพ่อว่า "ผมมีภรรยาแล้ว แต่ไปเจอผู้หญิงอีกคนที่ผมรักมากกว่า ผมจะทำอย่างไรดี?" หลวงพ่อตอบว่า "ไปขอผู้หญิงคนนั้นแต่งงานเลย" หลวงพ่อคิดอะไร…

        ชีวิตคู่ก็เหมือนกันกับถนน การเดินทางในถนนสายเดิมๆ ในเส้นทางเดิมๆ บางครั้งอาจดูน่าเบื่อ เมื่อเจอเส้นทางใหม่ๆ ก็อยากลองค้นหาดู เพื่อจะสามารถนำพาเราไปสู่จุดหมายปลายทางได้ไวขึ้น ถนนดีกว่าเก่า หรือเปล่า? วันนี้แอดมินมีเรื่องราวดีๆ มาให้คุณๆ ผู้อ่านให้ได้อ่านกัน รับรองเลยว่าดีมากๆ คัดมาให้แล้วจริงๆ

        กลางดึกคืนหนึ่ง มีพระหนึ่งรูปกับฆราวาสหนึ่งคนสนทนากันอยู่ในวัด

 

Sponsored Ad

 

        ฆราวาส: หลวงพ่อครับ ผมแต่งงานแล้ว แต่ตอนนี้ไปตกหลุมรักหญิงสาวคนหนึ่ง ผมจะทำอย่างไรดีครับ

        พระ: โยมมั่นใจมั้ยว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนสุดท้ายที่โยมจะรักตลอดไป

        ฆราวาส: แน่ใจครับ

 

Sponsored Ad

 

        พระ: งั้นโยมก็ต้องห ย่ ากับภรรยาคนนี้ แล้วก็ไปขอเธอแต่งงานซะ

        ฆราวาส: แต่ภรรยาคนปัจจุบันของผมก็อบอุ่น ใจดี เป็นคนดีไม่แพ้กัน ถ้าผมทำอย่างนั้นมันจะไม่ โ ห ด ร้ า ย ไร้ซึ่งคุณธรรมเกินไปหรอครับ

(เป็นเพียงรูปประกอบเท่านั้น)

 

Sponsored Ad

 

        พระ: ในชีวิตการแต่งงานการไร้ซึ่งความรักถึงจะถึอว่า โ ห ด ร้ า ย ไร้คุณธรรม ตอนนี้โยมรักคนอื่นแล้ว ไม่ได้รักเขาแล้ว การทำแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

        ฆราวาส: แต่ภรรยาของผมรักผมมาก รักอย่างลึกซึ้งหมดใจด้วย
        พระ: งั้นเขาก็มีความสุข

        ฆราวาส: ผมจะห ย่ ากับเขาไปแต่งงานกับคนอื่น เธอต้องรู้สึกทุกข์ทรมานถึงจะถูก ทำไมหลวงพ่อบอกว่าเธอจะมีความสุขล่ะครับ  

        พระ: ในชีวิตการแต่งงานเขายังมีความรักให้โยมอยู่ แต่โยมหมดสิ้นความรักต่อเขาแล้ว ในความเป็นจริง การมีเป็นความสุข การสูญสิ้นเป็นความทุกข์ ดังนั้นคนที่ทุกข์ทรมานคือโยมต่างหาก

 

Sponsored Ad

 

        ฆราวาส: แต่ผมกำลังจะห ย่ ากับเขาเพื่อไปแต่งงานกับคนอื่น เขากำลังจะเสียผมไป 

        พระ: โยมผิดแล้ว โยมเป็นแค่รูปธรรมการแสดงความรักแบบหนึ่งของชีวิตแต่งงาน เมื่อรูปธรรมนี้หายไป ความรักแท้ของเขาก็จะเปลี่ยนไปอยู่ที่รูปธรรมอันอื่น ดังนั้นความรักแท้ในชีวิตการแต่งงานของเขาไม่เคยสูญเสียไป เขาก็เลยมีความสุข ส่วนโยมทุกข์ทรมาน


        ฆราวาส: เขาเคยบอกว่าชีวิตนี้รักแต่ผมเท่านั้น เขาจะต้องไม่รักคนอื่นแน่ๆ

        พระ: โยมเคยพูดประโยคนนี้มั้ย?

        ฆราวาส: ผม…ผม…ผม…

        พระ: เทียนสามเล่มที่โยมมองเห็นตอนนี้ เล่มไหนสว่างที่สุด?

 

Sponsored Ad

 

        ฆราวาส: ผมแยกไม่ออก ดูเหมื่อนว่าจะสว่างเท่าๆ กัน

        พระ: เทียนสามเล่มนี้ก็เปรียบเสมือนผู้หญิง 3 คน หนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาวคนที่โยมบอกว่าโยมรักที่สุด แต่โยมกลับหาเธอไม่เจอ โลกใบนี้กว้างใหญ่มโหฬาร ผู้คนก็มีมากมาย ผู้หญิงก็มีนับไม่ถ้วน แค่เทียนสามเล่มโยมยังหาเล่มที่สว่างที่สุดไม่ได้ แล้วโยมจะมั่นใจได้ยังไงว่าเธอคนนี้จะเป็นคนสุดท้ายที่โยมจะรัก

        ฆราวาส: ผม…ผม…ผม…

 

Sponsored Ad

 


        พระ: ตอนนี้เดินไปหยิบเทียนมาหนึ่งเล่ม วางไว้หน้าโยม แล้วใช้ใจมอง เล่มนั้นก็จะสว่างที่สุด

        ฆราวาส: นั่นหลวงพ่อไม่ต้องบอกผมก็รู้ มันอยู่หน้าสุดมันก็ต้องสว่างที่สุดแน่ๆ

        พระ: เอามันกลับไปวางไว้ที่จุดเดิม ลองดูใหม่ซิ ว่าเล่มไหนสว่างสุด

        ฆราวาส: ผมก็ยังดูไม่ออกว่าเล่มไหนสว่างสุด

        พระ: ในความเป็นจริงแล้ว เทียนเล่มที่โยมหยิบมาวางตรงหน้าเมื่อกี้ก็คือหญิงคนนั้นที่โยมรัก เมื่อโยมรักเธอ ก็เหมือนเอาเทียนมาวางไว้ใกล้ๆ มันก็จะถูกดวงตาของโยมขยายใหญ่ แต่เมื่อเอากลับไปวางที่เดิม โยมก็จะรู้สึกว่ามองหาเล่มที่สว่างที่สุดไม่เจอ ความรักที่บอกว่าเป็นรักสุดท้ายจริงๆแล้วไม่มีจริงหรอกโยม มันก็เป็นแค่ภาพลวงตา ไม่มีจริง

Sponsored Ad


        ฆราวาส: ผมเข้าใจแล้ว หลวงพ่อไม่ได้บอกให้ผมห ย่ า เพียงแต่กำลังชี้จุดให้ผมเข้าใจ  

        พระ: โยมไปเถิด

        ฆราวาส: ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมควรจะรักใคร  เขาก็คือภรรยาของผมนั่นเอง
        พระ: อามิตตาพุทธ อามิตตาพุทธ

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ