เมื่อไม่นานมานี้ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกกฎหมายคุ้มครองสัตว์ใหม่ ห้ามมิให้ขายสัตว์เลี้ยงที่มาจากฟาร์มเพาะพันธุ์สัตว์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2019 นี้เป็นต้นไป สัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็น สุนัข, แมว, กระต่าย และอื่นๆ จะต้องมาจากศูนย์พักพิงเท่านั้น หากฝ่าฝืน มีโทษปรับ 500 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือเป็นเงินไทยประมาณ 1หมื่น 5 พันบาท)

    ▼แพทริก โอ ดอนเนล (Patrick O’Donnell)สมาชิกรัฐสภารัฐแคลิฟอร์เนียจากพรรคเดโมแครต คิดว่ากฎหมายว่าด้วยการอุปการะและการช่วยเหลือสัตว์เลี้ยง (The Pet Rescue and Adoption Act) หรือรู้จักในนาม กฎหมายแอสเซมบลี บิล 485 (Assembly Bill 485) ไม่เพียงแต่จะช่วยเหลือเหล่าบรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งหลายที่ถูกทอดทิ้งแล้ว แต่ผู้เสียภาษีก็ยังได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน เพราะรัฐบาลสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการศูนย์พักพิงสัตว์หลายร้อยล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

▼สัตว์เลี้ยงพลัดหลง หรือถูกทอดทิ้งจะถูกส่งตัวเข้าศูนย์พักพิงเหล่านี้ ซึ่งจะมีระยะเวลาในการอยู่ภายในศูนย์ชั่วคราวระหว่างการรอหาบ้านใหม่ และจะถูกทำลายด้วยการฉีดยาหลังจากเส้นตายกำหนดได้สิ้นสุด

    ▼กฎหมายฉบับนี้ผ่านการอนุมัติเมื่อต้นปี 2017 โดยกำหนดให้ร้านขายสัตว์เลี้ยงจะต้องบันทึกการซื้อขายและแหล่งที่มาของสัตว์ทุกตัว

 ▼กฎหมายฉบับนี้มีความสำคัญมากขนาดไหน? อ้างอิงตัวเลขจาก สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งสหรัฐอเมริกา (ASPCA) ในสหรัฐอเมริกา ทุกๆปีจะมีสัตว์เลี้ยงจำนวนมากกว่า  6.5 ล้านตัว ถูกส่งมายังศูนย์พักพิง และมีสัตว์จำนวนมากกว่า 1.5 ล้านตัว ถูกมนุษย์ทารุณกรรม ดังนั้นหากนี้กฎหมายฉบับนี้ขึ้นมา นอกจากจะช่วยกวาดล้างการหาผลประโยชน์จากสัตว์และการทรมานสัตว์ ยังช่วยปกป้องสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง อย่างเช่นบรรดาน้องหมาและน้องแมวทั้งหลาย 

    ▼ เหล่าบรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งหลายก็จะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป 

    เชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้ จะสามารถช่วยลดจำนวนสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง และเปิดโอกาสให้บรรดาสุนัข แมว กระต่ายและสัตว์อื่นๆที่อาศัยอยู่ภายในศูนย์พักพิงได้รับโอกาสที่จะมีบ้านถาวรของตัวเองอีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องเสี่ยงที่จะต้องจบชีวิตจากการต้องถูกทำให้เสียชีวิต

แปลและเรียบเรียงโดย โลกของโฮ่ง 

ที่มา：The Dodo