ใครจะคิดว่าชีวิตสุนัขตัวหนึ่งจะต้องทนทุกข์ทรมาน อันเกิดจากเจ้าของไร้ความรับผิดชอบ ทารุณกักขังพวกเขาเอาไว้ไม่ให้พบเจอกับโลกภายนอก หลังอาสาสมัครศูนย์พักพิงสัตว์เล็ก Naminukai ในเมืองวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีสุนัขตัวหนึ่งถูกเจ้าของทารุณกรรมอย่างน่าสงสาร 

    พวกเขาได้รีบเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุทันที และพวกเขาก็ได้พบกับน้องหมาเพศเมียสายพันธุ์ชาเป่ยผสม ตัวหนึ่งถูกล่ามโซ่อยู่ข้างนอกบ้านในสภาพอากาศที่หนาวจัด และอยู่ข้าง ๆ ถังขยะใกล้กับประตูและหน้าต่างบานใหญ่ในอาคารร้าง

    น้องหมาอยู่โดยไม่มีเบาะหรือแม้แต่ผ้าห่มให้ความอบอุ่นเลย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาตั้งใจละเลยสภาพความเป็นอยู่ของมัน และปล่อยให้มันใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพียงลำพัง

    มันอยู่ท่ามกลางอุจจาระและเศษขยะที่กองอยู่บนพื้น และที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือสุขภาพร่างกาย เพราะมันขาดสารอาหารอย่างหนัก ร่างกายเหลือเพียงแค่หนังหุ้มกระดูก ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลและโรคผิวหนัง และที่น่าสลดใจยิ่งกว่านั้น คือ มันตาบอดหนึ่งข้าง 

    นอกจากนี้ เมื่อสำรวจบริเวณที่น้องหมาอาศัยอยู่มีเพียงชามข้าวที่สกปรกและถ้วยที่ใส่น้ำไว้เพียงเล็กน้อย แต่ทว่าน้ำในถ้วยก็สกปรกเกินกว่าที่น้องหมาจะใช้ดื่มกินประทังความหิวกระหายได้ อาสาสมัครไม่สามารถทิ้งน้องหมาให้อยู่ในสภาพแบบนี้ต่อไปได้ 

    พวกเขาตัดสินใจพาสุนัขกับไปยังศูนย์พักพิงด้วยกัน น้องหมาส่ายหางด้วยความดีใจ ดูเหมือนว่ามันจะสัมผัสได้ว่าพวกเขากำลังจะมาช่วยตนเองออกไปจากสถานที่ทรมานแห่งนี้

    อาสาสมัครได้ตั้งชื่อใหม่ให้น้องหมาว่า "บาร์ซา(Barsa)" และตั้งใจว่าชีวิตหลังจากนี้ของบาร์ซาจะต้องดีและมีความสุขกว่าเดิม 

    บาร์ซาได้รับการดูแลอย่างดีจากอาสาสมัคร เพื่อช่วยให้สภาพร่างกายและจิตใจของมันหายดี ด้วยความเมตตาทางคุณหมอของคลินิกในท้องถิ่น ได้ผ่าตัดตาให้บาร์ซาฟรี เพื่อเป็นของขวัญสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่

    จากการช่วยเหลือของทุกฝ่าย และหัวใจนักสู้ของบาร์ซา ทำให้ค่อย ๆ ฟื้นตัวและแข็งแรงขึ้นอย่างช้า ๆ ในที่สุดตาของมันหายดี แม้จะต้องสูญเสียดวงตาข้างหนึ่งไปแต่สิ่งที่ได้กลับมานั่นยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่มันเคยคาดหวังเอาไว้มาก นั่นคือ อิสรภาพและความรักที่ไม่มีสิ้นสุด

    หลังจากนั้นไม่นานบาร์ซาก็มีครอบครัวใจดีติดต่อมาขอรับอุปการะ ตอนนี้บาร์ซาก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ ในที่สุดมันก็มีครอบครัวที่พร้อมจะมอบความรักความอบอุ่นให้แก่มันแล้วล่ะ แถมมันก็ไม่เหงาอีกด้วย เพราะครอบครัวใหม่มีเพื่อนสี่ขาเป็นน้องหมาสายพันธุ์เฟรนช์บูลด๊อกพร้อมกับพี่น้องชายหญิงอีกสองคนเลยล่ะ

    หวังว่าเรื่องราวของบาร์ซาจะช่วยให้คนที่ตัดสินใจเลี้ยงน้องหมา ได้ตระหนักถึงการเลี้ยงสุนัขว่า ผู้เลี้ยงต้องมีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน เพราะหากตัดสินใจนำพวกเขามาเลี้ยงแล้ว ควรมอบความรักและการดูแลที่ดีให้กับพวกเขา ถ้าเรารักและดูแลพวกเขาอย่างดี รับประกันว่าคุณจะได้สิ่งตอบแทนจากพวกเขาอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ 

ที่มา : Boredpanda