ระบบบริการสุขแห่งชาติ (National Health Service) ในสหราชอาณาจักร ถือว่าเป็นระบบที่พวกเขาภาคภูมิใจกันอย่างมาก เพราะมันช่วยให้ประชากรราวๆ 70 เปอร์เซ็นต์ สามารถรับการรักษาได้ฟรีในหลายๆ เงื่อนไข

        เช่นเดียวกันกับ Andrew Davies เด็กหนุ่มชาวอังกฤษ หนึ่งในผู้ที่มีสิทธิ์รักษาฟรีตามระบบดังกล่าว หลังจากที่ตอนอายุ 13 ปี เขาถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรค “มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอีลอยด์”

        ในปี 2012 ตอนที่เขาถูกวินิจฉัยว่ามีอาการของโรคมะเร็ง ทำให้เขาต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล Sheffield Children’s Hospital

        Andrew ต้องเข้ารับการเยียวยาด้วยเคมีบำบัด (หรือที่เราเรียกกันว่า “คีโม”) ซึ่งมันต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา บวกกับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส หลังจากนั้นจึงตามด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก

        จากตอนแรกที่เขาเริ่มเข้ารับการรักษานั้น เขาก็รู้สึกได้ว่าแม้จะได้สิทธิ์รักษาฟรี แต่เขาก็มีความต้องการที่จะคืนค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลต้องเสียไปทุกบาททุกสตางค์

        เมื่อเขาถามบุคลากรว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นมันเท่าไหร่ คำตอบที่ได้ก็คือ 150,000 ปอนด์ หรือราวๆ 6-6.2 ล้านบาท!!

        Andrew บอกว่า “เธอบอกกับผมว่าการผ่าตัดทั้งหมดนั้นระบบ NHS ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 150,000 ปอนด์ (ประมาณ 6-6.2 ล้านบาท) นั่นคือตอนที่ผมรู้ทันทีว่าต้องทำอะไร ผมต้องคืนเงินให้กับพวกเขาให้ได้”

        ด้วยเหตุนั้นเอง หลังจากที่เขาสามารถผ่านพ้นการรักษามาได้จนหาย เขาก็ใช้เวลาเกือบ 6 ปีมาจนถึงปี 2019 นี้ในการเก็บเงินให้ได้มากเท่าที่เขาตั้งเป้าเอาไว้ 

        เขาตั้งกองทุนรับบริจาค เขาและพี่ชายปั่นจักรยานข้ามเมืองเพื่อการกุศล ครอบครัวของเขาช่วยกันจัดงานวิ่งมาราธอนเพื่อเงินบริจาค ซึ่งเขาก็ได้รับแรงสนับสนุนจากคนรอบข้างที่ดีเป็นอย่างมาก

        จนตอนนี้เขาอายุครบ 20 ปี เขาเก็บเงินได้จนครบและนำมันบริจาคให้กับโรงพยาบาลที่ช่วยดูแลเขามาโดยตลอด ซึ่งเขาได้ทำการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน หนึ่งคือสำหรับตึกผู้ป่วยมะเร็ง สองคือเพื่องานวิจัยโรคมะเร็ง

         เหตุผลที่เขาบริจาคเงินให้กับตึกผู้ป่วยมะเร็งนั้นก็เพราะมันจะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งสำหรับใช้บูรณะขยับขยายห้องพักของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ทำให้พวกเขาสามารถพักฟื้นรักษาตัวโดยมีพื้นที่ให้คนในครอบครัวได้อยู่เคียงข้าง

        “ผมเป็นวัยรุ่นก็จริง แต่ผมก็ยังมีสมาชิกในครอบครัวที่คอยอยู่เคียงข้างเกือบตลอดทั้งคืนในตอนที่ผมอยู่ในโรงพยาบาล มันเป็นอะไรที่รู้สึกอุ่นใจเอามากๆ แม้ว่าในตอนที่ผมอายุเท่านั้นแล้วก็เถอะ” Andrew กล่าว

และตอนนี้เขาได้หายจากมะเร็งแล้ว

        ยังไงทีมงานก็ต้องแสดงความยินดีกับทั้งเขาที่หายจากโรคมะเร็งได้ และต้องชื่นชมทางโรงพยาบาลที่รักษาหนุ่มคนนี้ให้หายป่วยได้ 

ข้อมูลและภาพ จาก ladbible, dailymail, thesun