หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        ไม่ว่าใครก็คงใฝ่ฝันอยากออกไปท่องเที่ยวรอบโลก แต่มันจะดีแค่ไหน ถ้าเรามี "เพื่อนคู่ใจ" ที่สามารถพาไปเที่ยวได้ทุกๆ ที่ คอยแบ่งปันประสบการณ์และเป็นกำลังใจในการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ระหว่างการเดินทาง เหมือนกับชายหนุ่มวัย 33 ปี ที่ตัดสินใจออกเดินทางมาแล้วกว่า 8,000 กิโลเมตร กับเจ้าตูบคู่ใจตัวนี้!

        "ซู จินหยวน" ชายหนุ่มชาวจีนวัย 33 ปี เขาเป็นคนที่หลงใหลการปีนเขา และใฝ่ฝันอยากออกเดินทางรอบโลก เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่า โชคชะตาจะนำพาให้มาพบกับสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง ที่จะกลายมาเป็นเพื่อนคู่หูออกเดินทางไปกับเขา เป็น "ภาระ" ที่เขาเต็มใจจะมี ทั้งคู่ได้ออกเดินทางไปด้วยกัน ผ่านเส้นทาง “เสฉวน-ทิเบต” จนไปถึงเขตมณฑลยูนนาน ระยะทางรวม 8,046 กิโลเมตร หรือกว่า 5 พันไมล์

        นายซูเริ่มออกเดินทางมาตั้งแต่ปี 2016 เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพื่อนคนหนึ่งระหว่างการปีนเขา นั่นทำให้เขาตัดสินใจออกเดินทางไปตามเส้นทางมณฑลเหอเป่ย์ จนถึงทิเบต ความงดงามของทิวทัศน์และธรรมชาติข้างทาง ทำให้นายซูประทับใจและออกเดินทางเรื่อยมา

        จนกระทั่งปลายปี 2017 เขากลับไปทำงานและใช้เวลาอยู่กับภรรยา แต่ก็มักจะหาเวลาว่างออกมาปีนเขาเสมอๆ

        เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2018 นายซูได้พบกับสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง ใกล้กับทางขึ้นเขาเอ่อร์หลาง ในเส้นทางเสฉวน-ทิเบต เจ้าตูบสีขาวดูมอมแมมสกปรกเพราะเปื้อนฝุ่น มันนอนขดตัวอยู่ข้างทาง คอยกินอาหารที่มีนักท่องเที่ยวโยนให้ นายซูเห็นดังนั้นด้วยความสงสาร เขาจึงโยนเศษเนื้อให้เจ้าสุนัข แต่มันก็ไม่ยอมกิน กลับเดินตามเขามาไกลถึง 30 กิโลเมตรจนถึงที่พักของนายซู และนั่งรอเขาอยู่หน้าโรงแรมจนถึงเช้าของอีกวันหนึ่ง

        นายซูเล่าว่า เขาพยายามจะปลีกตัวออกมาจากเจ้าสุนัขจรจัดตัวนั้น เขาคิดว่ามันตามเขามาแค่เพราะอาหาร แต่เจ้าตูบสีขาวก็ตามติดเขาต่อกว่า 100 กิโลเมตร แม้ว่าการนำสุนัขเดินทางไปด้วย จะยุ่งยากกว่าการเดินทางปกติถึง 2 เท่า แต่ในที่สุดนายซูก็ตัดสินใจเอาเจ้าตูบจรจัดตัวนี้ไปด้วยกันกับเขา นายซูซื้อเชือกล่ามอย่างดี พามันไปอาบน้ำ ฉีดวัคซีน และตั้งชื่อเจ้าตูบสีขาวตัวนี้ว่า "เสี่ยวป่าย"

        "สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่าเจ้าเสี่ยวป่ายเลือกผม ไม่ใช่แค่เพราะผมให้อาหารหรือรับเลี้ยงมัน..." นายซูให้สัมภาษณ์ไว้กับสำนักข่าวท้องถิ่น 

        ทั้งคู่ออกเดินทางและปีนเขาด้วยกัน เมื่อเจ้าเสี่ยวป่ายเริ่มเหนื่อย นายซูก็จะเอาตะกร้าที่มีล้อเลื่อนมาติดไว้กับรถ ให้มันเข้ามานั่ง และลากเจ้าเสี่ยวป่ายไปพร้อมกับเขา นายซูยังซื้อเสื้อกันหนาวและกระเป๋าเล็กๆ สำหรับเสี่ยวป่าย ระหว่างทางพวกเขาก็มักจะตั้งแคมป์เล็กๆ เพื่อทำอาหารแบ่งกันกิน พวกเขามักจะเดินชมวิวธรรมชาติไปด้วยกันอย่างมีความสุข หากวันไหนฝนตก ทั้งคู่ก็จะเข้ามาหลบในที่กำบังด้วยกัน คอยเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ กันตลอดมา

        เจ้าตูบเสี่ยวป่าย ได้ทำให้การเดินทางธรรมดาๆ กลายเป็นการออกเดินทางที่แสนวิเศษ แม้ว่าในหลายๆ ครั้ง เจ้าเสี่ยวป่ายมักจะนำปัญหามาให้กับนายซูก็ตาม ครั้งหนึ่ง เจ้าเสี่ยวป่ายแอบวิ่งออกไปเล่นนอกเต้นท์นอน และมันก็วิ่งกลับมาพร้อมกับสุนัขตัวอื่นๆ ที่จะเข้ามาทำร้ายมัน หรือมีครั้งที่เสี่ยวป่ายไปกัดแกะตัวหนึ่งที่มีเจ้าของเข้า ทำเอานายซูต้องจ่ายเงินชดใช้ถึง 6,000 บาท

.

        ระหว่างเดินทาง เจ้าตูบเสี่ยวป่ายก็ชอบหายตัวไปเรื่อยๆ ครั้งหนึ่งเสี่ยวป่ายหายตัวไปที่เมืองลาซา (Lhasa) เมืองหลวงของทิเบต ทำเอานายซูและภรรยาต้องออกตามหากันวุ่นวาย ทั้งยังโพสต์ขอความช่วยเหลือในโซเชียลมีเดีย ซึ่งโชคดีที่สองวันถัดมา ก็มีผู้พบเห็นเสี่ยวป่ายและนำมันกลับมาคืนให้เขา

        แม้ว่านายซูมักจะชอบตัดพ้อว่าเสี่ยวป่ายเป็น "ภาระ" แต่เขาก็จะพูดถึงการเดินทางที่มีเจ้าตูบสีขาวตัวนี้อย่างภูมิใจและมีความสุข "การออกเดินทางกับเสี่ยวป่าย มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่การมีเพื่อนคู่หูออกเดินทางด้วย มันคือสิ่งที่วิเศษที่สุด แม้มันจะเป็นภาระแต่ผมก็ยังรักมัน" นายซูกล่าว

        จนถึงปัจจุบัน นายซูและเสี่ยวป่ายเดินทางมาด้วยกันกว่า 8 เมือง ระยะทางเกิน 8,000 กิโลเมตร โดยเฉพาะเส้นทาง เสฉวน-ทิเบต พวกเขาเดินทางกว่า 62 กิโลเมตรในวันเดียว ถือว่าเป็นการเดินทางได้ไกลที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ของ 1 คนและอีก 1 สุนัข

        นายซูได้บันทึกการเดินทางทั้งหมดของเขาไว้ในโลกโซเชียล เขาโพสต์วิดีโอและรูปภาพระหว่างเดินทาง ซึ่งมีผู้ติดตามเขาถึง 400,000 คน ทำให้เจ้าเสี่ยวป่ายกลายเป็นสุนัขที่มีชื่อเสียงโด่งดังของโลกออนไลน์ไปเลยทีเดียว!

.

        คลิปวิดีโอการเดินทางของ 1 คน 1 สุนัข ได้สร้างทั้งความประทับใจและอบอุ่นใจให้กับหลายๆ คนที่ได้เข้ามาชม จากสุนัขจรจัดมอมแมมที่นอนข้างทางตัวนั้น ก็ได้กลายมาเป็นสุนัขที่โด่งดังไปทั่วโลก จากรูปร่างผอมแห้ง ในตอนนี้เสี่ยวป่ายดูแข็งแรงและร่าเริงมากๆ

        ชาวเน็ตหลายๆ คนที่ได้รู้เรื่องราวของเสี่ยวป่าย ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย เช่น "การพบกันระหว่างเสี่ยวป่ายและเจ้าของคือพรหมลิขิตจริงๆ", "สายสัมพันธ์ระหว่างสุนัขและคนก็เหมือนเพื่อน นี่ล่ะที่เขาเรียกกันว่า สุนัขคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์" เป็นต้น

        หลายคนตกหลุมรักความน่ารักอย่างเป็นธรรมชาติของเสี่ยวป่าย พวกเขามักจะกังวลเสมอหากนายซูไม่ได้มาอัปเดตรูปภาพและเรื่องราวของเสี่ยวป่ายในแต่ละวัน มีบางคนที่ชอบส่งอาหารกระป๋องสำหรับสุนัข และเสื้อผ้า ของเล่นมาให้มันด้วย

        เจ้าตูบเสี่ยวป่ายตัวนี้ ไม่ได้เพียงแค่โด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ต มันยังถือว่าเป็นคนดังในชีวิตจริงด้วย หลายครั้งที่พนักงานในโรงแรมหรือที่พักระหว่างทางจำมันได้ และเสนอที่พักและอาหารให้ทั้งคู่ฟรีๆ หลายครั้งที่นายซูมักจะถูกเรียกว่า "ผู้จัดการของเสี่ยวป่าย" เลยด้วยซ้ำ 

        นายซูได้ออกมาเปิดใจที่เรื่องราวการเดินทางของเขาและเสี่ยวป่ายโด่งดังขนาดนี้ไว้ว่า เขาดีใจที่การเดินทางของพวกเขาทำให้หลายๆ คนมีความสุข และขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจพวกเขามาโดยตลอด ในตอนนี้ เขาเพียงแต่หวังว่าจะได้ออกเดินทางไปกับเสี่ยวป่ายต่อไป เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ และผจญโลกกว้างไปพร้อมกัน

        นอกจากนี้ นายซูยังกล่าวว่า เขาหวังว่าเรื่องราวของเขาจะทำให้หลายๆ คนหันกลับมามองสุนัขจรจัดบ้าง แม้ว่าพวกมันจะดูสกปรกไม่น่ารักในทีแรก แต่หากได้รับโอกาส และความรักความอบอุ่น พวกมันก็จะเป็นสุนัขแสนน่ารักและร่าเริงเหมือนกับเจ้าเสี่ยวป่าย เขาหวังว่าการออกเดินทางของเขาจะทำให้สุนัขจรจัดตัวอื่นๆ มีโอกาสได้บ้านหลังใหม่ที่อบอุ่นเพิ่มขึ้น

ชมคลิปเพิ่มเติม 

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ที่มา : toutiao

แปลและเรียบเรียงโดย โลกของโฮ่ง