สัตว์ทุกชนิดล้วนชอบสร้างอาณาเขตเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และแน่นอนว่าสัตว์จรจัดที่ต้องดิ้นรนสู้ชีวิตก็ย่อมมีความแข็งแรงและดุร้าย และเชื่อใจคนยากกว่าสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน เหมือนเช่นน้องเหมียวส้มตัวเอกของเรื่องราวในวันนี้

     ต้องขอขอบคุณเพจเฟสบุ๊กที่ชื่อว่า วิภาวดีสัตวแพทย์ ได้เล่าเรื่องราวของมันว่า เมื่อประมาณ 2 ปีก่อนคนในเรือนจำได้รับเลี้ยง “น้องส้ม” ซึ่งเป็นแมวจร เป็นมายังไงไม่มีใครทราบ มาอาศัยอยู่หน้าประตูเรือนจำ แสดงอาณาเขตไปทั่วประตู แมวตัวไหนมาไม่ได้ ส้มไล่เขาหมด

    มันค่อนข้างดุร้าย เนื่องจากไม่ได้เลี้ยงตอนเป็นตัวเล็กๆ ใครไปใครมามันก็จะขู่และกัด จนไม่มีใครอยากจะเล่นกับมัน จะบอกว่าน้องส้มอาศัยอยู่ที่เรือนจำมากกว่า 6 ปีแล้ว เคยถูกเอาไปปล่อยที่วัดเสมียนนารี ไปได้ 4 วัน ก็กลับมาเอง

    ทุกครั้งที่มันกลับมาก็จะโมโห หิวโซมาก หลายคนบอกว่าเหมือนน้องส้มจะกลับมาเพื่อยึดพื้นที่เดิม ที่มันคิดว่าเป็นพื้นที่ของมัน (ซะที่ไหน)  ดุแค่ไหนหรอ มีคนบอกว่าขนาดหมาตัวใหญ่ ยังไม่มีใครกล้าแหยม น้องส้มยึดพื้นที่ นั่งโต๊ะทำงาน มีเฝ้ายาม ดูกล้องวงจรปิด ทุกอย่างอยู่ในสายตาน้องส้มหมด

    พี่ๆ พนักงานต้องมีการส่งเวรดูแลและปรนนิบัติน้องส้มด้วย มีการจัดเวรให้ด้วย ดังนั้นพี่ๆ พนักงานจึงตั้งฉายาให้มันว่า “ส้ม คลองเปรม” ฟังดูโจ๋มาก

    ตอนนี้น้องส้มมีบทบาทมากขึ้น เพราะมันเป็นสัตว์ที่ช่วยบำบัดความเครียดในที่ทำงานให้กับพี่ๆ ทุกคน 

    สร้างความสุขให้กับทุกคน พี่ๆ พนักงานรักน้องส้มขาโจ๋มากนะ

    ดูสิดูแลอย่างดี คอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้ด้วย แล้วใครจะอยากกลับไปเป็นแมวจรละ ที่นี่ออกจะสบายขนาดนี้ แถมยังมีอาณาเขตเป็นของตนเอง ไม่มีใครกล้าแหยมเลย ยิ่งใหญ่มาก

        เหนื่อยจากการเฝ้าอาณาเขตก็มานอนพักผ่อนได้ มีเบาะนุ่มๆ ให้นอน ใครจะอยากจากที่นี่ไปไหนล่ะ

    สำหรับเจ้าส้มคลองเปรมก็มาตรวจร่างกายที่ วิภาวดี สัตวแพทย์ จึงทำให้คุณหมอนำเสนอเรื่องราวน่ารักๆ ของน้องส้มให้ทาสเหมียวฟังกันไงละ

    นี่แหละคือความฉลาดของ น้องส้ม หรือ ส้ม คลองเปรม 555 เป็นไงกันบ้างสำหรับชื่อเสียงของน้องส้มในวันนี้ เก่งขนาดคุมพี่ๆ พนักงานเรือนจำให้อยู่ใต้อำนาจได้ทุกคนเลย เจ๋งมากน้องส้ม

ที่มา : วิภาวดีสัตวแพทย์