หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ  

    นักวิชาการ ชี้ แนวคิด อนุทิน หนุนเพื่อไทย มีความเป็นไปได้ แต่เสียงยังไม่พอ หาก ส.ว. ไม่โหวตให้ ด้าน จตุพร เชื่อ เจ้าตัวอ่านเกมขาด น่าจะซบพลังประชารัฐตั้งรัฐบาล

    เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อวันที่ 24 มีนาคม เสร็จสิ้น พรรคการเมืองต่างหารือและจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล โดยเบื้องต้น พรรคพลังประชารัฐ มีคะแนนโหวตจากทั่วประเทศเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่จำนวน ส.ส. มีมากเป็นอันดับ 2 รองจากพรรคเพื่อไทย

    จากนั้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา พรรคการเมืองจำนวน 7 พรรค นำโดยพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อต่อต้านการสืบทอดอำนาจ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขต มากเป็นอันดับที่ 4 และ 5 ยังไม่ประกาศชัดว่าจะเข้าร่วมฝ่ายใด

    ทั้งนี้ หากพิจารณาจากจำนวนรวม ส.ส. จากฝ่ายเพื่อไทย และฝ่ายพลังประชารัฐ โดยไม่นับรวมพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย โดยพรรคเพื่อไทยจะมี ส.ส. 246 คน ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะมี ส.ส. 203 คน ทำให้นักวิชาการหลายคนอย่างเช่น ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มองว่า มีความเป็นไปได้ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย จะทำให้ ส.ส. เป็น 297 คน เกินครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร และนายอนุทินอาจจะได้รับการเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะนายอนุทินคือคนกลางระหว่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคอนาคตใหม่

    ขณะที่ อาจารย์สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เห็นตรงกันข้ามว่า เรื่องนี้อาจเป็นไปไม่ได้ เพราะเชื่อว่านายอนุทินมองเกมขาด และอาจไม่เข้าร่วมกับเพื่อไทย เนื่องจากหากไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย มีความเป็นไปได้ที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะไม่โหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี

    นอกจากนี้ แม้ว่านายอนุทินจะไม่เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังมีโอกาสสูงที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้รับการโหวตจากเสียงข้างมากเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้หากได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว. 250 เสียง

    แต่กรณีที่นายอนุทินมาเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้พรรคพลังประชารัฐมีคะแนนเสียง 254 เสียง สามารถบริหารประเทศได้ แต่นักวิชาการมองว่า จำนวน ส.ส. ที่เกินครึ่งในสภาผู้แทนราษฎรเพียงเล็กน้อยเช่นนี้ อาจทำให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะการโหวตงบประมาณแผ่นดินที่ต้องใช้เกิน 251 เสียง

    เช่นเดียวกับที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ ได้กล่าวในรายการต่างคนต่างคิด ว่า พรรคพลังประชารัฐจะได้เป็นรัฐบาลโดยมีเสียงเกินครึ่งในสภาผู้แทนราษฎร เพียงเล็กน้อย ขณะนี้พรรคเพื่อไทยและพรรคแนวร่วมจะได้เป็นฝ่ายค้าน และไม่เชื่อว่านายอนุทินจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าจะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เพราะนายอนุทินรู้อยู่แล้วว่า หาก ส.ว. ไม่ร่วมโหวตให้ ตัวเองก็ไม่มีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก อมรินทร์ ทีวี