หนุ่มใจดีเก็บ ลูกแมว ที่ถูกเจ้าของเดิมปล่อยในวัด "มาชุบเลี้ยง" จนตอนนี้กลายเป็นหมูขนาดย่อมๆ ไปแล้ว

คอมเมนต์:

คุณทำดีที่สุดแล้วค่ะ....

    เจ้าของเรื่องราวดีดีนี้คือ คุณแจ็ค ที่ได้เก็บลูกแมววัยแรกเกิด 3 ตัว มาจากวัด ซึ่งคาดว่าน่าจะมีคนนำพวกมันมาทิ้ง ตอนนั้นลูกแมวยังไม่ลืมตาด้วยซ้ำ หากทิ้งไว้ลำพัง พวกมันต้องไม่รอดแน่ๆ

    เชื่อว่าการให้.. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือหรือใหญ่ มันจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าเสมอ เหมือนกับชายหนุ่มคนนี้ที่ตัดสินใจมอบโอกาสที่สองให้กับแมววัดที่ไม่มีของ

 

Sponsored Ad

 

    เรื่องมีอยู่ว่า.. คุณแจ๊คและครอบครัวได้ช่วยกันดูแลลูกแมวทั้ง 3 ตัว เป็นอย่างดี แต่น่าเศร้าที่ลูกแมว 1 ใน 3 อ่อนแอมาก มันจึงจากไปในเวลาต่อมา

.

    เมื่อลูกแมวที่เหลืออีก 2 ตัว โตขึ้นอีกหน่อย คุณแจ๊คก็ได้พาพวกมันไปทำหมัน และตั้งชื่อให้ทั้งคู่ว่า หางสั้น กับ หางยาว

 

Sponsored Ad

 

 

    หางสั้นค่อนข้างไม่สนโลก ใครเรียกก็ไม่สนใจ ทำทุกอย่างตามใจตัวเอง และมันจะปลีกตัวอยู่ลำพัง 

    ขณะที่เจ้าหางยาวนั้น ขี้อ้อนมากๆ แถมกินเก่งอีกด้วย หิวเมื่อไหร่ก็เข้าไปอ้อนเพื่อขออาหาร

 

Sponsored Ad

 

 

    เวลาผ่านไป เจ้าหางสั้นและเจ้าหางยาว ก็โตเต็มวัย เท่านั้นยังไม่พอ พวกมันยังอ้วนตุ๊ต๊ะอีกด้วย คงเป็นเพราะครอบครัวเลี้ยงดีเกินไป และโชคดีที่ความอ้วนนี้ไม่ได้มีผลต่อสุขภาพของพวกมัน

 

Sponsored Ad

 

    ปัจจุบันเป็นเวลา 5 ปีที่แล้ว ที่หางสั้นกับหางยาวมาอยู่กับครอบครัวของคุณแจ๊ค พวกมันกลายเป็นลูกรักของครอบครัวและเป็นจุดสนใจของทุกคน 

    ระหว่างวัน หางสั้นกับหางยาวจะชอบเล่นไล่จับกัน เล่นมวยปล้ำ รวมทั้งสร้างความเสียหายทั่วบ้าน และงีบหลับด้วยกันเมื่อหมดแรง

 

Sponsored Ad

 

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

    เมื่อเทียบกับวันแรกที่รับแมวน้อยทั้ง 2 ตัวมาดูแล จะเห็นว่าพวกมันมาไกลมาก จนแทบไม่อยากเชื่อว่าทั้งคู่เคยเป็นแมววัดมาก่อน

    ขอบคุณคุณแจ๊คที่ไม่ปล่อยลูกแมวไว้เพียงลำพังในวันนั้น แต่ได้ให้โอกาส ชุบเลี้ยง จนพวกมันเติบใหญ่และกลายเป็นแมวอ้วนที่ดูแล้วสง่างาม

 

Sponsored Ad

 

 อ้วนไม่มาก นิดหน่อยเอง

.

ว่างเป็นไม่ได้ ต้องหาโน่น หานี่ทำตลอด

อ้วนจนยายอุ้มไม่ไหวแล้วลูกเอ้ย

 

Sponsored Ad

ไอ้ต้าวอ้วงของป๊า

จากลูกแมวที่ถูกทิ้งในวันนั้น สู่แมวอ้วนผู้เป็นที่รักในวันนี้

ที่มา : Chanaphai Gerdniyo

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ