ในสังคมหรือในโรงเรียน พวกเรามักจะได้เจอคนบางคนที่ “ใจดีเกินไป” พวกเขาจะพยายามทำทุกอย่างตามที่คนอื่นร้องขอ แม้ว่าคำขอร้องพวกนั้นจะไม่มีเหตุผล ในด้านจิตวิทยา นี่เป็นปัญหาที่ต้องไตร่ตรองอย่างหนัก พวกเราต้องทำผิดต่อตนเอง เพื่อตอบสนองผู้อื่นมั้ย?

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

        ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา Les Babanell เคยเสนอทฤษฎีหนึ่ง เขาบอกว่าคนที่ใจดีกับคนอื่นเกินไป เป็นคนรู้สึกขาดในชีวิต โดนดูถูกและมีความกังวลมากกว่าคนอื่น สาเหตุก็เพราะพวกเขากลัวจะโดนปฏิเสธ ไม่ได้รับการยอมรับ จึงเลือกที่จะประนีประนอม สามารถอธิบายนิสัยของพวกเขาได้ว่า ใช้ความรู้สึก กระตือรือร้นเมื่อสถานการณ์ไม่ชัดเจน ไม่สามารถยึดมั่นในมุมมองของตัวเอง มักจะโดนความคิดเห็นคนอื่นครอบงำได้ง่าย

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

        สำหรับพวกเขาแล้ว ไม่สามารถปฏิเสธคำขอร้องคนอื่นได้ เพราะกลัวว่าถ้าปฏิเสธไปแล้วอีกหน่อยจะไม่มีใครคบ แม้ว่าคำขอร้องพวกนี้จะดูไม่มีเหตุผลในความรู้สึกของพวกเขาก็ตาม ในใจของพวกเขาแล้ว นี่เป็นขอบเขตที่ชัดเจนมาก ถ้ายิ่งข้ามขอบเขตก็จะรู้สึกไม่สบายใจ คนประเภทนี้จะโดนสังคมกดดัน ทำให้สูญเสียความสามารถในการตัดสินใจ

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น) 

        กลายเป็นคนที่ “ใจดีเกินไป” บางคนเกิดจากพื้นฐานครอบครัวดั้งเดิม ศาสนา หรืออื่นๆ พวกเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้มาเป็นเวลานาน ทำให้พวกเขาวางคุณค่าของตัวเองไว้หลังจากคุณค่าของสังคม ความคิดเห็นของพวกเขาคือ “ตราบใดที่ฉันทำประโยชน์เพื่อสาธารณะ สอดคล้องกับค่านิยมทางสังคม ฉันก็จะมีชีวิตที่ดี” เมื่อพวกเขาโดนเอาเปรียบภายใต้คำยกย่อง ก็ทำให้พวกเขายังคงยืนยันที่จะเสียสละตัวเองต่อไป

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

        ในความเป็นสิ่งทุกสิ่งที่พวกเขาทุ่มเท ห่างไกลจากคำชื่นชมของคนเหล่านั้นมาก แต่คนที่ใจดีเกินไปกลับไม่ยอมรับฟัง พวกเขากลัวว่าคนอื่นจะไม่ชอบ เพื่อที่จะได้รับการยอมรับจากคนอื่นจึงยอมไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายอยู่ในจุดที่แย่ที่สุด ก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นได้

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

        นักจิตวิทยาสังคมชี้ให้เห็นว่าหลายคนมีบุคลิกเช่นนี้จริง ๆ เพราะในสังคมเต็มไปด้วยคนที่ยึดติดในศีลธรรม ศาสนา ความรู้สึกของกลุ่ม ทำให้คนมากมายเริ่มละเลยความต้องการของตัวเอง ถ้าคุณเองก็ตกอยู่ในกับดักนี้ ลองคิดดูดีๆ นี่คือตัวคุณเองในแบบที่คุณต้องการหรือไม่?

แปลและเรียบเรียงโดย โลกของโฮ่ง