เปิดเรื่องราว "ชายกลับใจ" ผันตัวเป็น "เกษตรกร" ทำปศุสัตว์ รายได้ 6.6 ล้านต่อปี !

คอมเมนต์:

เปิดเรื่องราว "ชายกลับใจ" ผันตัวเป็น "เกษตรกร" ทำปศุสัตว์ รายได้ 6.6 ล้านต่อปี !

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    หลังพ้นโทษออกจากคุกด้วยข้อหาปล้นฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา คุณสุพันธ์ ศรีภักดี อดีตนักโทษได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการเป็นเกษตรกรเลี้ยงวัวเนื้อ หมู และปลานิล บนพื้นที่ 24 ไร่ ที่จังหวัดศรีสะเกษ  โดยมีลูกชาย2คนคอยช่วยเหลือ ในแต่ละปี ฟาร์มแห่งนี้จะมีรายได้หลังค่าใช้จ่ายแล้วประมาณ 6.6 ล้านบาท

    “ผมนั้นเคยติดคุกอยู่ที่บางขวาง 13 ปี ข้อหาปล้นฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ช่วงที่อยู่ในเรือนจำได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเกษตร โดยเฉพาะการทำเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงเป็นความตั้งใจว่า หากได้พ้นโทษออกมาจะมาเริ่มต้นชีวิตใหม่กับการทำเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง”

 

Sponsored Ad

 

    นายสุพันธ์ ศรีภักดี เจ้าของ“ ศรีภักดีฟาร์ม” อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 7 ตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โทร. (087) 240-6827 บอกกล่าวถึงอดีตก่อนก้าวมาเป็นเกษตรกรในระดับ Smart Farmer ด้านปศุสัตว์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเบญจลักษ์ และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ

 

Sponsored Ad

 

    จากที่ต้องถูกจองจำอยู่เป็นเวลา 13 ปี เมื่อพ้นโทษออกมา ในปี 2535 จึงเป็นปีแห่งการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยการเข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างเพื่อการผลิตตามโครงการของกรมส่งเสริมการเกษตร ภายใต้การสนับสนุนของอำเภอ งานเกษตรอำเภอเบญจลักษ์ และเริ่มต้นทำฟาร์ม ภายใต้ชื่อ “ศรีภักดีฟาร์ม” บนพื้นที่ 24 ไร่ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2535

    ด้วยความมุมานะพยายามในการประกอบอาชีพจึงทำให้ก้าวสู่ฟาร์มชั้นแนวหน้า มีกิจกรรมประกอบด้วย การเลี้ยงหมู 1,822 ตัว แยกเป็น แม่พันธุ์ 210 ตัว พ่อพันธุ์ 12 ตัว หมูขุน 1,600 ตัว วัวเนื้อ 444 ตัว แยกเป็น แม่พันธุ์ 280 ตัว พ่อพันธุ์ชาโรเล่ส์ 3 ตัว พ่อพันธุ์บราห์มัน 1 ตัว วัวขุน จะเลี้ยงชุดละ 40 ตัว โครุ่นอื่นๆ 120 ตัว และเลี้ยงปลานิล 6 บ่อ นอกจากนี้ ยังมีรายได้เสริมมะพร้าวน้ำหอมที่ปลูกไว้รอบๆ ฟาร์ม และการทำปุ๋ยหมักจากขี้หมู ขี้วัวในฟาร์ม

 

Sponsored Ad

 

ปุ๋ยหมักจากขี้หมู

 

    “การเลี้ยงวัวของผมจะเน้นเป็นวัวเนื้อ เพราะขายง่าย ต้นทุนต่ำ ปัจจุบันได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ โดยนำพันธุ์ชาโรเล่ส์เข้ามาผสมกับแม่พันธุ์พื้นเมือง แม่พันธุ์บราห์มันที่มีอยู่ในฟาร์ม ลูกที่ออกถ้าเป็นตัวเมียจะเก็บไว้เป็นแม่พันธุ์ ส่วนลูกตัวผู้จะนำไปขุนจำหน่าย ในฟาร์มของผมจะมีลูกวัวคลอดออกมาทุกวัน”

คอกเลี้ยงวัวเนื้อ

 

    ในส่วนอาหารที่ใช้เลี้ยง เจ้าของฟาร์มได้ยกตัวอย่างถึงวัวเนื้อที่เลี้ยงว่า “จะใช้ฟางข้าวหมักเป็นหลัก และเสริมด้วยกากมันหมักยีสต์ ส่วนอาหารข้นจะเน้นการผสมอาหารขึ้นใช้เอง โดยซื้อวัตถุดิบที่มีอยู่ในพื้นที่เป็นหลัก โดยสูตรอาหารที่ใช้นั้นลูกชายเป็นคิดค้นสูตรขึ้นมา” พี่สุพันธ์ กล่าว

 

Sponsored Ad

 

ศรีภักดีฟาร์ม ฟาร์มสร้างชีวิต

    ในส่วนของการเลี้ยงวัวเนื้อนั้น พื้นที่คอกเลี้ยงของพี่สุพันธ์จะมีรูปแบบที่แตกต่างจากที่อื่น โดยจะเน้นการขุดบ่อเลี้ยงปลาไว้กลางคอกโคเนื้อ ด้วยต้องการเลี้ยงปลานิล


 

Sponsored Ad

 

    “ผมใช้ปลานิลแปลงเพศเก็บขี้วัว พอฝนตกขี้วัวจะไหลลงบ่อ แล้วทำให้เกิดแพลงตอนขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งแพลงตอนนี้จะกลายเป็นอาหารของปลานิลที่เลี้ยง และปลานิลที่ผมปล่อยเลี้ยงนี้จะปล่อยครั้งแรกทีเดียว 10,000 ตัว หลังจากนั้นปล่อยตามธรรมชาติออกลูกหลานในบ่อเอง ผมจะจับเฉพาะตัวใหญ่ตรงกับที่ตลาดต้องการ ซึ่งเป็นการเลี้ยงที่เราไม่ต้องมีต้นทุนมากนัก” พี่สุพันธ์ กล่าว

จากทั้งหมดนี้ ปีหนึ่งๆ ฟาร์มแห่งนี้จะมีรายได้หลังค่าใช้จ่ายแล้วประมาณ 6.6 ล้านบาท

    “ผมมีลูก 2 คน คนหนึ่งเรียนจบด้านสัตวศาสตร์ อีกคนเรียนจบด้านประมง ตอนนี้ทุกคนช่วยทำงานอยู่ในฟาร์ม รวมถึงการเข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือชุมชน โดยลูกของผมจะออกไปยังพื้นที่ของเกษตรกรที่พร้อมเป็นเครือข่ายช่วยให้บริการเกี่ยวกับการผสมเทียม การจัดการดูแลสุขภาพสัตว์ เพื่อให้สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย”

 

Sponsored Ad

 

    ทั้งนี้ เป้าหมายของศรีภักดีฟาร์มที่วางไว้ในอนาคตคือ การพยายามส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่เกิดการรวมกลุ่มและร่วมกับทางฟาร์มในลักษณะของการเป็นเครือข่าย เพื่อผลิตสินค้าปศุสัตว์จำหน่าย รวมถึงการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้เจ้าของฟาร์มให้เหตุผลว่า เพราะฟาร์มจะเดินไปด้วยตัวเองคนเดียวไม่ได้ ต้องเอาชาวบ้านไปด้วย จึงจะประสบความสำเร็จ

    “ตอนนี้ผมมองว่า จะทำอย่างไร ให้ชุมชนมีรายได้ไปพร้อมๆ กับฟาร์ม ดังนั้น จะต้องมีการสร้างความเข้าใจร่วมกันก่อน และหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เครือข่ายที่สร้างขึ้นเราจะมีตราสินค้าเป็นของตนเองเพื่อสร้างตลาดขึ้นมา”

Sponsored Ad

    สำหรับการจำหน่ายผลผลิตของฟาร์มในปัจจุบัน พี่สุพันธ์ บอกว่า ตลาดจะแบ่งออกเป็น 2 แหล่งใหญ่ๆ โดยหนึ่ง เป็นตลาดภายในพื้นที่ ซึ่งมีความต้องการทั้งส่วนที่เป็นสัตว์มีชีวิตและเนื้อชำแหละ

    “ผมมองตลาดภายในเป็นหลักก่อนตอนนี้ ใครต้องการ วัว หมู ปลา มาซื้อได้โดยตรงที่ฟาร์ม จะเอาไปทั้งแบบตัวเป็นมีชีวิต หรือจะให้ฆ่าและชำแหละให้ได้หมด แต่ถ้าปริมาณสัตว์เหลือเกินกว่าที่ตลาดในพื้นที่รับได้ ผมจะส่งขายให้กับทางพ่อค้าเพื่อส่งไปจำหน่ายยังตลาดของประเทศเพื่อนบ้าน” พี่สุพันธ์ กล่าว

    ส่วนสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทางศรีภักดีฟาร์ม ใช้วิธีการตลาดแบบเลี้ยงเองขายเองแบบนี้ เพราะต้องการเพิ่มมูลค่าสินค้าในฟาร์มของตนเอง

เนื้อโคขุนที่ชำแหละขายส่ง ขายปลีก

    “ถ้าเราไม่ชำแหละขาย ให้พ่อค้ามาจับ เราจะได้ราคาต่ำ อย่างวัวตัวหนึ่งถ้าให้พ่อค้ามาจับ เราจะได้เงินเพียง 30,000 บาท แต่ถ้าเรามีการชำแหละขายเอง จะได้เงินถึงตัวละ 50,000 บาททีเดียว”

    นี่จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้ที่เคยผิดพลาดในชีวิต แต่วันนี้เขาสามารถสร้างตัวเองให้เป็นคนเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จของจังหวัดศรีสะเกษแห่งนี้…

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก sentangsedtee

บทความที่คุณอาจสนใจ